อิตาลีโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในรอบแรก ด้วยผลงานชนะ 3 นัดรวด ยิงได้ 7 ลูก และไม่เสียประตูให้กับทีมใดเลย ทะลุเข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอ ชนิดที่แฟนบอลอัซซูรี่แฮปปี้ไปตามๆ กัน
ส่วนความพร้อมในเกมนี้ กุนซือโรแบร์โต้ มันชินี่ ต้องรอเช็กอาการเจ็บต้นขาของกองหลังตัวเก๋า จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ซึ่งถ้ายหายไม่ทัน ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้ พร้อมลงมาเล่นแทน โดยปักหลักเป็นเซนเตอร์คู่กับ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ นอกจากนี้ยังมีแบ็กขวา อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ที่ต้องรอเช็กอาการเจ็บน่องอีกราย
ขณะที่แกนหลักที่เหลือไม่มีปัญหา ซึ่งหลายๆคนได้พักในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรก และเตรียมกลับมาออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกในเกมนี้ โดยเฉพาะ 3 แนวรุกที่ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ และ ชิโร อิมโมบิเล่
ผลงานในรอบแรก ออสเตรีย ชนะ นอร์ท มาซิโดเนีย 3-1 แพ้ เนธอร์แลนด์ 0-2 และชนะ ยูเครน 1-0 เก็บ 6 คะแนน เข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่มซี ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ศึกฟุตบอลยูโร
ขณะที่ขุมกำลังคืนนี้ ออสเตรีย จะขาดกองกลาง วาเลนติโน ลาซาโร่ ซึ่งเจ็บต้นขา หมดสิทธิลงช่วยทีม และต้องรอเช็กความฟิตของ คอนราด ไลเมอร์ กับ คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์ ส่วนตัวผู้เล่นรายอื่นพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยกุนซือฟรังโก้ โฟด้า เตรียมจัดทัพชุดใหญ่ นำโดยคีย์แมนอย่าง มาร์ติน ฮินเตอร์เร็กเกอร์, ดาวิด อลาบา, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช , มาร์เซล ซาบิตเซอร์, มาร์โก อาร์เนาโตวิช และ “กัปตันทีม” ดาวิด อลาบา
อิตาลี
ออสเตรีย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อิตาลี : จานลุยจิ ดอนนารุมมา, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า, มานูเอล โลคาเตลลี่, จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า, โดเมนิโก้ เบราร์ดี้, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, ชิโร อิมโมบิเล่
ออสเตรีย : ดาเนี่ยล บัคมันน์, มาร์ติน ฮินเตอร์เร็กเกอร์, ดาวิด อลาบา, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, สเตฟาน ไลเนอร์, ซาเวอร์ ชลาเกอร์, คอนราด ไลเมอร์, ฟลอเรียน กริลลิตช์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, คริสตอฟ บอมการ์ตเนอร์, มาร์โก อาร์เนาโตวิช
อิตาลี ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ไปแล้ว หลังจากโชว์ฟอร์มในรอบแรกได้อย่างระเบิดเถิดเทิง นอกจากนี้ สภาพทีมก็ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว อาจจะมี คิเอลลินี่ และ ฟลอเรนซี่ ที่ต้องรอเช็กอาการอีกครั้ง แต่แกนหลักคนอื่นๆ พร้อมเต็มที่ หลังจากได้พักในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรก
ส่วนออสเตรีย บรรยากาศในทีมน่าจะคึกคักไม่น้อย เพราะพวกเขาสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบน็อกเอาต์ศึกยูโรได้เป็นครั้งแรก รวมถึงผู้เล่นตัวหลักก็อยู่กันครบ แต่ต้องยอมรับว่า นาทีนี้แข้งอิตาลีร้อนแรงเหลือเกิน ทั้งเกมรุกที่ดุดันวูบวาบ และเกมรับสุดแข็งแกร่ง รวมถึงความมั่นใจแบบสุดๆ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ขุนพล “อัซซูรี่” น่าจะเก็บชัยและทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
ใครเจอใคร-เตะวันไหน! เช็คผลประกบคู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมศึกยูโร 2020
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก
This website uses cookies.