“เต๋า-สมจิตร” ลุยพิธีกรเกมโชว์ “เตะสู้ฝัน” ชวนนักฟุตบอล-ดาราฟาดแข้งสานฝันคนไทย
เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ส่งตรงคอนเทนต์ “SPORTAINMENT” กับรายการใหม่ “เตะสู้ฝัน” เกมโชว์ที่ดาราและนักฟุตบอลต้องช่วยผู้เข้าแข่งขันที่มีความฝันแข่งขันเกมเพื่อเอาชนะภารกิจให้ได้เงินไปสู้ฝันมากที่สุด นำโดย 2 พิธีกรสายลุย “เต๋า-สมชาย เข็มกลัด” และ “สมจิตร จงจอหอ” ซึ่งครั้งนี้เป็นการกลับมารับหน้าที่พิธีกรของ “เต๋า-สมชาย” อีกครั้งในรอบเกือบ 30 ปี
ซึ่ง เต๋า เผยว่า “อย่างแรกเลยคือผมมีความสุขมากที่ได้อยู่กับสิ่งที่เรารักก็คือฟุตบอล และรายการ “เตะสู้ฝัน” ยังเปิดโอกาสให้คนทางบ้านเข้ามาร่วมรายการใช้ความสามารถมาคว้าเงินรางวัล แข่งทั้งเกมและตอบคำถามไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟุตบอล เรื่องสโมสรรวมถึงเรื่องอาชีพของคุณเอง คนสู้ฝันส่วนใหญ่มาสู้เพื่อครอบครัว เงินรางวัลที่ได้สามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพให้เค้าได้เลย เป็นเรื่องที่ดีมากครับ” ประเดิมเทปแรกหนุ่ม “เต๋า-เศรษฐพงศ์” และกองหน้าจอมเก๋า “ลีซอ-ธีรเทพ” จากสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร มาช่วยทำภารกิจช่วยคนสู้ฝัน “กอล์ฟ-คมกฤษณ์” ผู้พิการทางสายตาที่คลั่งไคล้ฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ติดตามชมความสนุกใน “เตะสู้ฝัน” ทุกวันจันทร์ เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7HD เริ่ม 1 มี.ค.นี้.
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.