ชิน แท ยัง ปลุกวิญญาณนักสู้แข้งอินโดฯก่อนอุ่นนัดสุดท้าย29 พ.ค.นี้ – สยามกีฬา
ทัพ “การูด้า” ทีมชาติอินโดนีเซีย ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม จี คู่แข่งเกมแรกของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงซ้อมอย่างเข้มข้นต่อเนื่องที่ JA (Jebel Ali) Sports Center and Shooting Club เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายพบกับ โอมาน ในวันเสาร์ที่ 29 พ.ค.นี้
ล่าสุด ชิน แท ยัง กุนซือใหญ่ของอินโดนีเซีย ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์หลักของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งอินโดนีเซียอย่าง PSSI ถึงความพร้อมของทีมว่า “สำหรับเนื้อหาการฝึกซ้อมในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีที่เราต้องกระชับมากขึ้นในการป้องกันและการโจมตี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นเทคนิคการป้องกันที่ดีและมีประสิทธิภาพและเรียบง่าย ซึ่งเชื่อว่าหากผ่านไปเราก็แข็งแกร่งขึ้นหากเกมรับมีประสิทธิภาพจะทำให้เกมรุกเราคมกว่าเดิมไปด้วย”
โค้ชชาวเกาหลีใต้ยังขอให้ผู้เล่นทำสิ่งนี้อย่างจริงจังว่า “เพราะทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของข้อบกพร่องที่เราต้องการแก้ไข ผมต้องการให้ผู้เล่นมุ่งเน้นไปที่สมาธิอย่างเต็มที่ เพื่อที่เราจะได้ดีขึ้นในเกมต่อไป และต้องรักษาจิตวิญญาณของนักสู้ไว้ด้วย”
สำหรับทีมชาติอินโดนีเซีย จะมีคิวลงสนามอุ่นเครื่องอีก 1 นัด พบกับทีมชาติโอมาน ในวันเสาร์ที่ 29 พ.ค.64 ซึ่งเกมนี้เป็นเกมฟีฟ่า (เอ แมตช์) มีผลในการจัดอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งอีกด้วย ก่อนจะทำศึกคัดบอลโลก พบกับ ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ในวันที่ 3 มิ.ย.64 ตามลำดับ
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.