Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

เผยเงินรางวัลหลังหักภาษีทั้ง20ทีมพรีเมียร์ลีก – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

90min สื่อเกี่ยวกับฟุตบอลรายหนึ่งประเมินเงินรางวัลแบบหลังหักภาษีไปแล้วของทั้ง 20 ทีมใน พรีเมียร์ลีก โดยที่ แมนฯ ซิตี้ จะได้เงินไป 153.9 ล้านปอนด์ ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ฟันเงินไป 153.5 ล้านปอนด์

    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะได้เงินรางวัลโดยรวมแบบหลังหักภาษีไปแล้วจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาลนี้ที่จำนวนราว 153.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,156 ล้านบาท) จากการประเมินของ 90min สื่อแวดวงฟุตบอลรายหนึ่งที่นับรวมจากหลายปัจจัย อย่างเช่นเงินที่แบ่งตามอันดับ และ ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด เป็นต้น

    สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้อันดับ 2 นั้น จะได้เงินรวมแล้วราว 153.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,140 ล้านบาท) ส่วน ลิเวอร์พูล ที่จบซีซั่นด้วยการเป็นอันดับ 3 จะฟันเงินไป 150.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,036 ล้านบาท)

    ทั้งนี้ บางทีมแม้จะมีอันดับในลีกดีกว่าอีกฝ่าย แต่ก็จะได้เงินรางวัลน้อยกว่าเพราะส่วนแบ่งจากด้านอื่นๆ ที่แตกต่างกัน อย่างเช่น เลสเตอร์ ที่เป็นอันดับ 5 ในลีก แต่ได้เงินรางวัลโดยรวม 141.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,652 ล้านบาท) น้อยกว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่จบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับ 6 โดยที่ “ขุนค้อน” จะได้เงินรางวัลแบบหลังหักภาษีไปแล้ว 143.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,740 ล้านบาท)

    สรุปเงินรางวัลแบบหลังหักภาษีที่แต่ละทีมใน พรีเมียร์ลีก จะได้รับ จากการประเมินของ 90min
    1. แมนฯ ซิตี้ 153.9 ล้านปอนด์
    2. แมนฯ ยูไนเต็ด 153.5 ล้านปอนด์
    3. ลิเวอร์พูล 150.9 ล้านปอนด์
    4. เชลซี 148.3 ล้านปอนด์
    5. เลสเตอร์ 141.3 ล้านปอนด์
    6. เวสต์แฮมฯ 143.5 ล้านปอนด์
    7. สเปอร์ส 139.4 ล้านปอนด์
    8. อาร์เซน่อล 134.4 ล้านปอนด์
    9. ลีดส์ 135 ล้านปอนด์
    10. เอฟเวอร์ตัน 138.6 ล้านปอนด์
    11. แอสตัน วิลล่า 122.2 ล้านปอนด์
    12. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 119.9 ล้านปอนด์
    13. วูล์ฟส์ 116.3 ล้านปอนด์
    14. พาเลซ 111.7 ล้านปอนด์
    15. เซาธ์แฮมป์ตัน 116.9 ล้านปอนด์
    16. ไบรท์ตันฯ 107.5 ล้านปอนด์
    17. เบิร์นลี่ย์ 101.7 ล้านปอนด์
    18. ฟูแล่ม 106.9 ล้านปอนด์
    19. เวสต์บรอมฯ 101.7 ล้านปอนด์
    20. เชฟฯ ยูไนเต็ด 91 ล้านปอนด์

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.