Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

ฟังชัดๆจากปาก “โค้ชฉ่วย” หลังถูกหนองบัวยกเลิกสัญญา

Football Sponsored
Football Sponsored

“โค้ชฉ่วย”สมชาย ชวยบุญชุม ที่กลายเป็นอดีตกุนซือ หนองบัวพิชญ เอฟซี เปิดใจกับทีมงานฟุตบอลสยามรายวัน ถึงการแยกทางกับทีมแม้ว่าจะพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก2ซีซั่นที่ผ่านมา โดย “โค้ชฉ่วย” เผยว่า

    “เท่าที่คุยกันกับท่านประธานสโมสร ผมก็ไม่รู้ว่าท่านคิดยังไง สุดท้ายก็มาลงตัวที่สโมสรขอยกเลิกสัญญา”

    สมชาย ชวยบุญชุม เปิดเผยอีกว่า “ถ้าถามว่าสาเหตุที่ต้องแยกทางกันครั้งนี้ คือเรื่องเงินหรือเปล่า ถ้าเป็นเรื่องเงิน ก็คุยกันได้นิครับ คงไม่ใช่เรื่องเงิน เขาไม่เลือกที่จะต่อรอง เขาตั้งใจจะไม่เอาเราอยู่แล้ว ก็คงทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องแยกทาง”

    “เราก็ตกใจ ทีแรกก็ไม่ได้ขยับอะไร คิดว่าจะได้ทำต่อในไทยลีก วางแผนไว้บ้างแล้ว จะเริ่มซ้อมวันไหน อะไร อย่างไร แต่พอถึงตรงนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก เหมือนผมโดนชกสลบไปงีบนึง แล้วก็ตื่นขึ้นมาก็คงต้องรับสภาพไป”

    “ผมเองก็อยากจะรู้สาเหตุว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ผมทำเพื่อสโมสร แม้จะเพิ่งเข้ามาทำทีม แต่มันก็ผูกพันครับ อยากทำอะไรให้กับสโมสรได้เพิ่มเติมอีกในไทยลีก”

    อดีตกุนซือหนองบัวพิชญ เอฟซี ยังกล่าวอีกว่า “อาจจะเป็นสาเหตุอื่นๆหรือเปล่า มีที่ว่า ทุกๆหลังเกม ทุกครั้งผมจะไปทานข้าวกับท่านประธาน กลับตี1ตี2ทุกครั้ง ผมก็ไป แต่ผมไม่ดื่ม อาจจะมีพูดไม่เข้าหูท่านบ้างหรือเปล่า เหมือนลิ้นกับฟันหรือเปล่า แต่ก็ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดอะไร เพราะไม่มีใครบอกได้”

    “ผมเคารพท่านเขาตลอด แต่การยกเลิกสัญญาครั้งนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งการแยกทางก็ถือเป็นการเคารพการตัดสินใจของสโมสร” 

    “ความรู้สึกของผม ก็คงเป็นห่วงสโมสร รู้สึกรักและผูกพันกับสโมสร”

    “นักฟุตบอลที่ต่อสัญญาไปแล้วก็แล้วแต่ตัวนักเตะครับ ถ้าเขาอยู่ก็อยู่ ผมไม่อะไรเลย อยากฝากนักเตะว่า อย่าไปมองเรื่องโค้ชว่าจะเป็นใคร ขอให้เล่นเพื่อสโมสร อยู่เพื่อสโมสร ไม่ต้องนึกถึงโค้ชว่าจะเป็นใคร เล่นเพื่อตัวเองและครอบครัว” 

    “ถึงตอนนี้ผมคงต้องบอกลาแฟนบอลหนองบัวฯ ไม่มีโอกาสได้คุมทีมในไทยลีก แต่ก็หวังว่าหนองบัวจะประสบความสำเร็จ?ในอนาคต? ถ้าโอกาสหน้าเป็นไปได้ก็?หวังว่าจะได้กลับมาคุมทีมนี้อีกครับ”

    “สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณท่านประธานที่ให้โอกาสผมและทีมงานเข้ามาทำทีม ถ้าการแยกทางครั้งนี้เป็นเรื่องไม่ดีผมขอโทษด้วยครับ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ต้องแยกทางคืออะไร ขอโทษทุกฝ่ายด้วยจริงๆ”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.