นายอเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า (UEFA) กล่าวต่อบรรดาเจ้าของสโมสรฟุตบอลชั้นนำของยุโรป 12 แห่ง ให้ล้มเลิกแผนจัดตั้ง “ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก” (European Super League) เพื่อเห็นแก่แฟนฟุตบอลและประวัติศาสตร์อันยาวนานของสโมสรต่าง ๆ ในขณะที่เริ่มมีบางสโมสรที่แสดงท่าทีถอนตัวออกจากแนวคิดนี้แล้ว
นายเซเฟริน กล่าวต่อที่ประชุมประจำปีของยูฟ่าในวันอังคารว่า การจัดตั้ง “ซูเปอร์ลีก” คือความผิดพลาดของบรรดาเจ้าของสโมสรขนาดใหญ่ทั้ง 12 แห่ง ไม่ว่าจะด้วยความโลภ ความหยิ่งยะโส หรือความขาดความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับวัฒนธรรมลูกหนังของยุโรป แต่พวกเขายังมีเวลาเปลี่ยนใจหันหลังให้กับแนวคิดนี้ เพื่อแสดงความเคารพต่อบรรดาแฟนฟุตบอล
ประธานยูฟ่ายังได้กล่าวยกย่องผู้บริหารของสโมสรชั้นนำอีก 3 แห่ง คือ ปารีส แซงต์แยแมน จากฝรั่งเศส รวมทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี ที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมกับ “ซูเปอร์ลีก” ด้วย
ขณะเดียวกัน บางสโมสรที่ประกาศเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน 12 สโมสรผู้ก่อตั้งซูเปอร์ลีก เช่น เชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ แสดงท่าทีว่าอาจจะถอนตัวออกจากแนวคิดนี้แล้วเช่นกัน
เมื่อวันอาทิตย์ สโมสรใหญ่ที่สุดของยุโรป 12 แห่ง ประกาศร่วมจัดตั้ง “ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก” ซึ่งมี 6 ทีมดังจากอังกฤษเข้าร่วม คือ เชลซี, อาร์เซนอล, ท็อตแนมฮ็อตสเปอร์, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากนั้นยังมี 3 ทีมจากสเปน คือ บาร์เซโลนา, รีล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด และอีก 3 ทีมจากอิตาลี คือ เอซีมิลาน, อินเตอร์มิลาน และ ยูเวนตุส
เป้าหมายของซูเปอร์ลีก คือการแข่งขันกับรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเป็นรายการแข่งขันใหญ่ที่สุดในระดับสโมสรของยุโรป และมีรายได้มากมายมหาศาลในแต่ละปี โดยมีธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (JP Morgan Chase) เป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินให้แก่โครงการดังกล่าว
ผู้ก่อตั้งซูเปอร์ลีกระบุว่า การแข่งขันจะใช้ระบบ 20 ทีม โดย 12 ทีมชั้นนำดังกล่าวจะได้สิทธิ์ร่วมแข่งโดยอัตโนมัติร่วมกับอีก 3 ทีมที่ยังไม่เปิดตัว ส่วนอีก 5 ทีมจะใช้ระบบคัดเลือกเพื่อชิงสิทธิ์เข้าแข่งขันในแต่ละฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้กำลังถูกต่อต้านอย่างหนักจากทั้งแฟนฟุตบอลของสโมสรต่าง ๆ รวมทั้งสมาพันธ์ฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสิทธิ์สโมสรที่เข้าร่วมซูเปอร์ลีก จากการแข่งขันในทุกรายการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งจะห้ามนักฟุตบอลที่สังกัดสโมสรเหล่านั้นลงแข่งในนามทีมชาติของพวกเขาด้วย