ด่วน! เอ็ด วู้ดเวิร์ด ลาออกรองประธาน แมนยู สิ้นปีนี้

หลังจากที่สร้างดราม่าเกี่ยวกับ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก และเมื่อลีกดังกล่าวกำลังจะแตก เอ็ด วู้ดเวิร์ด ก็ได้ตัดสินใจจบการเป็นรองประธาน สโมสร ปีศาจแดง ในทันที เพื่อรับผิดชอบกับการกระทำดังกล่าว

บีบีซี และ สกาย สปอร์ต สื่อกีฬาชื่อได้ออกมารายงานว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานสโมสร ของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาประกาศว่า เจ้าตัวจะลาออกจากทุกตำแหน่งในสโมสรหลังจบฤดูกาล 2020-21 นี้อย่างแน่นอนแล้ว โดยสาเหตุที่ทำให้รองประธานคนดังลาออกในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่เจ้าตัวนำพาสโมสรเข้าไปสู่ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก จนทำให้สโมสรถูกวิจารณ์อย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

เอ็ด วู้ดเวิร์ด ได้ออกมากล่าวว่า “ผมมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ ยูไนเต็ด และนับเป็นเกียรติที่ทำงานร่วมกับสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้มาตลอด 16 ปี สโมสรอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับอนาคตและเป็นเรื่องยากในก้าวออกจากสโมสรในสิ้นปีนี้”

“ผมอยากขอบคุณแฟนบอลยูไนเต็ดสำหรับการสนับสนุนทั้งในช่วงเวลาที่ดีและแย่ ผมรู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาอันท้าทายสำหรับประวัติศาสตร์ของเรา แต่การสนับสนุนของพวกคุณที่มีต่อทีมไม่เคยเป็นที่สงสัยใดๆ ท้ายที่สุด เป็นความน่ายินดีที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มคนที่ทำงานหนัก มีพรสวรรค์ และสง่างามทั้งหลาย”

สำหรับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ในวัย 49 ปี ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญกับสำหรับการเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2005 และ ได้เข้ามาแทนที่ เดวิด กิลล์ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร เมื่อปี 2013 หลังจากนั้นเป็นต้นมา เอ็ด วู้ดเวิร์ด ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความล้มเหลวของสโมสรต่อการพลาดแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงนโยบายในตลาดซื้อขายนักเตะที่ใช้เงินมูลค่าสูงมากด้วย และล่าสุดกับเหตุการณ์ที่พาทีมออกจากสมาคมสโมสรยุโรป และตบปากรับคำว่าจะไปลุย ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก จนเป็นดราม่าอย่างหนักในช่วงนี้

Tags: esportHearthstoneกีฬาถ่ายทอดผลการแข่งขันสดอีสปอร์ตแข่งขัน

4 ปี ago

ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง