Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

‘ป๋าเฟอร์กี้’ วอนอย่าจัด’ซูเปอร์ลีก’เหตุทำลายความสวยงามโลกลูกหนัง

Football Sponsored
Football Sponsored

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตตำนานกุนซือโลกลูกหนัง ออกมาเผยว่าการจัด ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก เป็นการทำลายโลกลูกหนัง

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมสุดยิ่งใหญ่ของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงเตือนให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะจัดศึกลูกหนัง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก เพราะเป็นการทำลายมนต์ขลังถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และระบบฟุตบอลลีก ที่แฟนบอลทั่วโลกต่างให้ความรัก และศรัทธามาร่วม 70 ปี

ล่าสุดก็เป็นทางด้านตำนานกุนซือ อย่าง เฟอร์กูสัน ที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่าไม่มีอะไรจะมาโค่นความยิ่งใหญ่ของค่ำคืนที่ต้องลงแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ ลีก ลงได้ โดยกุนซือผู้พา อเบอร์ดีน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จเป็นกอบเป็นกำได้เผยผ่านสำนักข่าว รอยเตอร์ ว่า

“พูดถึงไอ้ถ้วย ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก นี่นะเหมือนมันกำลังทำลายประวัติศาสตร์ที่ดีของฟุตบอลตลอด 70 ปีที่ผ่านมาเลย ผมขอพูดในฐานะคนที่คร่ำวอดในวงการฟุตบอลมานาน ผมเป็นโค้ชมาตั้งแต่ยุค 60 กับ ดันเฟิร์มลิน แอธแลติก ผมเคยพาทีมอย่าง อเบอร์ดีน ไปคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ความรู้สึกตอนที่สมัยผมทำทีมอยู่ในสกอตแลนด์ ประสบความสำเร็จได้ เหมือนกำลังได้ไต่เขาเอเวอร์เรสต์เลยล่ะ”

“ทีมอย่าง เอฟเวอร์ตัน ลงทุนสร้างสนามใหม่ใจกลางเมืองลิเวอร์พูลทำไมล่ะ นั่นก็เพราะว่าพวกเขากระหายที่จะต้องไขว่ขว้าเพื่อไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ในอนาคต ผู้คนต่างหลงไหลในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ ลีก กันทั้งนั้น ผมเคยพา ยูไนเต็ด เข้าชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 4 ครั้ง และทุกครั้งมันเป็นค่ำคืนสุดแสนมหัศจรรย์อันล้ำค่า ผมไม่มั่นใจว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาไงกับเรื่องนี้ ผมไม่ขอยุ่งด้วย” 

ก่อนหน้านี้เพิ่งมีรายงานข่าวที่สร้างความฮือฮาคือการเตรียมประกาศจัดตั้ง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก จาก 12 ทีมใหญ่ทั่วยุโรป ประกอบด้วย 6 สโมสรชั้นนำจากอังกฤษ, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด จากสเปน สมทบด้วย ยูเวนตุส, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน จากอิตาลี จนทำให้หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์เรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.