ระยองดึง”คัมเบะ”คุมทัพต่อสัญญาแข้งหลักอีก 2 ราย
ทีมงานฟุตบอลสยามรายวัน สอบถาม “บิ๊กกล้า”พศิน ปิตุเตชะ ผู้จัดการทีม “ม้านิลมังกร”ระยอง เอฟซี ที่ต้องตกชั้นจากไทยลีก2020-21 ลงไปเล่นในไทยลีก2ซีซั่นใหม่2021-22 ถึงแนวโน้มของการแต่งตั้งกุนซือคนใหม่แทนที่ มาซามิ ทากิ ที่ตัดสินใจไปรับงานใหม่ที่ พีที ประจวบ ด้วยว่า
“เรื่องโค้ชใหม่ที่จะเข้ามาทำทีมเราในฤดูกาลหน้า ตอนนี้ชัดเจนไปแล้วกว่า 99.99 เปอร์เซนต์ที่เราจะปิดดีลกับ ซูกาโอะ คัมเบะ กุนซือชาวญี่ปุ่นซึ่งเหลือแค่การเซ็นสัญญาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
“ซูกาโอะ คัมเบะ จะเข้ามาสร้างทีมระยอง เอฟซี ให้เป็นไปตามแนวทางและเป้าหมายที่เราหวังจะเลื่อนชั้นกลับไปในไทยลีกในปี2022-23 เราอาจจะไม่ได้ทุ่มสร้างอะไรมากมาย แต่จะเน้นไปที่นักเตะสายเลือดระยอง จะมี 2 รายที่เรากำลังเจรจาต่อสัญญา ทั้ง อนุชิต เงินบุคคล กัปตันทีม และ เทพพิทักษ์ พูลจวง โดยหลังจากนี้ หาก คัมเบะ เข้ามา งานแรกเลยก็จะให้เขาดูว่าเราจะใช้งานผู้เล่นคนไหนจากชุดที่แล้วเพิ่มเติมจาก อนุชิต และ เทพพิทักษ์”
สำหรับ ซูกาโอะ คัมเบะ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 59 ปี เคยผ่านการคุมทีมสโมสรไทยมาแล้วมากมาย ทั้ง นครราชสีมา มาสด้ส ปี2013–2016 , เชียงใหม่ เอฟซี ปี2016-2017 , อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ปี2018 , หนองบัวพิชญ เอฟซี ปี 2019 และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ปี 2020-21
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.