Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“โอเดการ์ด” ยิงเบิ้ล “อาร์เซน่อล” เชือด “เชลซี” 3-1 แซง “ซิตี” ขึ้นจ่าฝูง แต่แข่งมากกว่า 2 นัด

Football Sponsored
Football Sponsored


มาร์ติน โอเดการ์ด เหมาคนเดียวสองประตู “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล คัมแบ็คกลับมาโชว์ฟอร์มดีที่ดีอีกครั้ง เปิดบ้านเชือดนิ่ม “สิงห์บลูส์” เชลซี ในเกมลอนดอน ดาร์บีแมตช์ 3-1 คว้าสามแต้ม แซง “แมนฯ ซิตี” กลับไปนำจ่าฝูง

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022/2023 คืนวันอังคารที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกมลอนดอน ดาร์บีแมตช์ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงห์บลูส์” เชลซี

อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตตา ฟอร์มหล่นไปอย่างน่าใจหาย ไม่ชนะใคร 4 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก เสมอ 3 แพ้ 1 เกมล่าสุดบุกพ่าย แมนฯ ซิตี 1-4 และโดน “เรือใบ” แซงขึ้นไปนำจ่าฝูงเมื่อจบเกมลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ เชลซี ของแฟรงค์ แลมพาร์ด ย่ำแย่ยิ่งกว่า พ่ายแพ้มา 5 เกมรวดทุกรายการ

อาร์เซน่อล ครองเกมได้เหนือกว่า และนาทีที่ 18 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ กรานิต ชากา จ่ายบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ากลางมาให้ มาร์ติน โอเดการ์ด บรรจงยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ บอลเสียบมุมเข้าไปแบบสุดสวย

น.31 เจ้าถิ่นปืนใหญ่ได้ประตูขยับห่าง 2-0 จากจังหวะที่ กรานิต ชากา ได้เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ากลางมาให้ มาร์ติน โอเดการ์ด คนเดิม วิ่งมาซัดแถวจุดโทษ บอลผ่านมือนายทวารทีมเยือนเข้าไป

เท่านั้นไม่พอในนาทีที่ 34 อาร์เซน่อล หนีห่างไปอีกเป็น 3-0 เบน ไวท์ เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ กาเบรียล เชซุส พักอกเอาบอลลง ตวัดบอลให้ กรานิต ชากา ยิงติดเซฟแนวรับ เชลซี ก่อนบอลเด้งมาเข้าทาง เชซุส ซัดระยะเผาขนไม่พลาด และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เชลซี เล่นได้ดีขึ้นกว่าในครึ่งแรก และก็มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 มาเตโอ โควิซิช เปิดบอลให้ โนนี มาดูเอเก หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงผ่านมือ อารอน แรมสเดล เข้าไปในนาทีที่ 65

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำสกอร์กันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที อาร์เซน่อล เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 3-1 คว้าสามแต้ม มี 78 คะแนน จาก 34 นัด แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี กลับไปนำจ่าฝูง แต่แข่งขันมากกว่า 2 นัด ส่วน เชลซี พ่ายแพ้ 6 เกมรวดภายใต้การคุมทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด มี 39 แต้ม รั้งอันดับ 12

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.