ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2564 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่าง แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงของตารางพบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 11
แมนฯ ซิตี้ คว้าชัยมา 6 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ เกมนี้พวกเขาไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่มีการโรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่งส่ง นาธาน อาเก้ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอ์กับ จอห์น สโตนส์ แทน รูเบน อิอาส ที่ได้พัก ขณะที่แนวรุกมี แฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิง และ กาเบรียล เชซุส นำทัพ
ขณะที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ชนะมา 2 เกมติดต่อกัน เกมนี้แนวรุกส่ง เอลแดร์ คอสต้า ทำเกมรุกแทน แจ็ค แฮร์ริสัน ที่ติดเงื่อนไขในสัญญายืมตัว โดยมี แพทริก แบมฟอร์ด ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าตามเดิม
เปิดฉากครึ่งแรกมาเป็น แมนซิตี้ ที่ขึงบุกใส่ก่อนตามคาด ก่อนจะมาได้ลุ้นครั้งแรกในนาที 17 เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ตั้งป้อมซัดด้วยขวานอกเขตโทษแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไปไกล
หลังจากนั้นสองนาทีถัดมา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กองหน้า แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะรับบอลได้บอลในเขตโทษแล้งแต่งเข้าขวาก่อนซัดเสาแรกแต่คราวนี้ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ยังปิดเสาแรกได้ดีรับเข้าซองสบาย
ขณะที่ ลีดส์ เน้นตั้งรับรอจังหวะสวนกลับเล่นงานแต่ก็ยังหาโอกาสจบสกอร์แบบจะแจ้งไม่ได้ ทำให้ผ่านครึ่งชั่วโมงทั้งสองทีมยังเสมออยู่ 0-0
หลังจากนั้น “เรือใบสีฟ้า” เร่งเครื่องมากขึ้น นาที 37 แฟร์นานดินโญ่ เลื้อยทะลุเข้าเขตโทษ และไหลถวายพานให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยืนซัดโล่งๆแต่บอลหลุดเสาออกไปแบบน่าผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ลีดส์ มาทำช็อกเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 42 จากจังหวะที่ แพทริก แบมฟอร์ด ไหลบอลให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส ตั้งป้อมกดด้วยขวาบอลชนเสาก่อนข้ามเส้นเข้าประตูไป
แต่กระนั้นช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 ทัพ “ยูงทอง” ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ เลียม คูเปอร์ ไปเสียบสกัดใส่ กาเบรียล เชซุส อย่างรุนแรง ผู้ตัดวินย้อนดูวีเออาร์ ก่อนย้อนกลับมาแจกใบแดง
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกเป็น ลีดส์ ที่นำ แมนฯ ซิตี้ 1-0
ครึ่งแรกเกมดำเนินมาถึง นาที 53 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตุตามตีเสมอจากจังหวะที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ตั้งป้อมกดด้วยซ้ายในเขตโทษ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้งออกมาได้หวุดหวิด
“เรือใบสีฟ้า” บุกใส่ต่อเนื่องง นาที 71 แฟร์นานดินโญ่ ชากมาซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ พุ่งปัดออกหลัง
จนกระทั่ง นาที 76 แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ แบร์นาโด้ ซิลวา ไหลบอลให้ แฟร์ราน ตอร์เรส กดด้วยขวาแบบไม่จับระยะเผาขนคราวนี้ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ หมดสิทธิ์เซฟ
นาที 84 ลีดส์ เกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ ราฟินญ่า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แมนฯ ซิตี้ แต่แตะบอลไม่ผ่านมา เอแดร์ซอน ที่ออกมาใช้ขาตัดบอลไว้ได้
ท้ายเกมมีดราม่าเกิดขึ้นเมื่อ ลีดส์ แซงขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เอซยาน อลิออสกี้ แทงบอลทะลุช่องให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส หลุดไปซัดผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูไปอย่างสุดช็อก
เวลาทีเหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 ขยับขึ้นมารั้งที่ 9 ของตาราง ส่วน “เรือใบสีฟ้า” ยังนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 14 แต้มและแข่งมากกว่าสองนัด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ – แฟร์นานดินโญ่, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส
ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ – ลุค อายลิ่ง, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, เลียม คูเปอร์, เอซยาน อลิออสกี้ – คัลวิน ฟิลลิปส์ – ราฟินญ่า, สจ๊วร์ต ดัลลัส, ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์, เอลแดร์ คอสต้า – แพทริก แบมฟอร์ด
This website uses cookies.