Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

เจ้าตัวตอบเอง “แรชฟอร์ด” เฉลยความหมายท่าดีใจ หลังยิงให้ “แมนยูฯ” 10 ประตูใน 10 นัด

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 26 มกราคม 2566 มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงที่กำลังร้อนแรงที่สุดในชั่วโมงนี้ เผยความหมายของท่าดีใจหลังทำประตูให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งกองหน้าวัย 25 ปี ซัดไปแล้วถึง 10 ลูกใน 10 เกมหลังสุด นับตั้งแต่กลับมาจากการรับใช้ทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

แรชฟอร์ด ยิงให้ แมนยูฯ ในพรีเมียร์ลีก 5 ประตูจาก 6 นัดหลังสุด รวมถึง 1 ลูกในเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 และอีก 4 ประตูในคาราบาว คัพ (ลีกคัพ) รอบ 4 ที่ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 (ยิง 1), รอบ 8 ทีม ที่ชนะ ชาร์ลตัน แอธเลติก 3-0 (ยิง 2) และรอบรองชนะเลิศ นัดแรก เกมล่าสุด ที่ชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 3-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา

แต่หลังจากยิงประตูได้ในช่วงหลัง แรชฟอร์ด ก็มักจะทำท่าดีใจด้วยการหลับตาแล้วชี้นิ้วไปที่ขมับ จนกลายเป็นที่จดจำของแฟนบอลไปแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวออกมาเฉลยความหมายผ่านทาง สกาย สปอร์ตส ว่าเป็นการเตือนตัวเองให้นึกถึงการต่อสู้กับสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ของตัวเอง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ฟอร์มตกในฤดูกาลที่แล้ว ก่อนกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งในซีซั่นนี้

แรชฟอร์ด อธิบายว่า “บางครั้งผมก็ต้องดิ้นรนกับหลายสิ่งที่กระทบจิตใจมากขึ้น มันไม่ใช่แค่การทำผลงานในสนาม แต่เป็นหลายสิ่งหลายอย่างนอกสนาม นั่นคือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว ผมเข้าใจว่ามันเป็นงานของคุณที่จะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม แต่สำหรับผู้เล่น เราต้องอยู่ในสภาพจิตใจที่เหมาะสมสำหรับทุกเกม

“หลายครั้งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว พื้นที่ในหัวของผมไม่ได้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับเกมการแข่งขัน ซึ่งผมไม่แปลกใจกับบางสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ผมรับรู้ได้ถึงพลังงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งในสโมสรและสนามฝึกซ้อม นั่นทำให้ผมมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น และตอนนี้ผมก็รู้สึกมีแรงกระตุ้นอย่างแท้จริง”

ทั้งนี้ ยังมีนักเตะชื่อดังอีก 3 คนที่ใช้ท่าดีใจเหมือนกับ แรชฟอร์ด ในสัปดาห์นี้ คือ บูกาโย ซากา ในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดที่ อาร์เซนอล ชนะ แมนยูฯ 3-2, โชเอลินตอน ในคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ซึ่ง นิวคาสเซิล บุกไปชนะ เซาแธมป์ตัน 1-0 และ โยชัว คิมมิช ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ซึ่ง บาเยิร์น มิวนิก เสมอ โคโลญจน์ 1-1

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.