เป้าหมายล้มไทย โต๊ะเล็กอินโดฯบอกชัดเจน
aseanfootball เว็บไซต์สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ออกมาตีข่าวเรื่องราวของทีมฟุตซอลทีมชาติอินโดนีเซีย ที่วางแผนเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียและการแข่งขันซีเกมส์ 2021 โดยทางด้านของ อินโดนีเซีย วางเป้าที่จะล้มทีมชาติไทยมหาอำนาจภูมิภาคเพื่อเดินหน้าคว้าเหรียญทองครั้งแรกในมหกรรมกีฬาเอเชียอาคเนย์ให้สำเร็จ เชื่อทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ
ทางด้านของ ซายัน คามาดี้ ผช.โค้ชทีมชาติอินโดนีเซีย เผยว่า เป้าหมายคือการคว้าเหรียญทองในซีเกมส์ เมื่อมองดูศักยภาพของทีมแล้วอาจจะมีมีสิ่งที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมในช่วงนี้ แต่เชื่อว่าโอกาสที่จะคว้าเหรียญทอง ยังเปิดกว้างสำหรับทุกทีม ดังนั้นจะเดินหน้าเตรียมการอย่างเข้มข้นพร้อมกับส่งแผนการไปยัง สมาพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซียและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการทีมหลังจากนี้ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มในช่วงปลายปี ที่ประเทศเวียดนาม เป็นเจ้าภาพ
สำหรับฟุตซอล ซีเกมส์ ก่อนหน้านี้จัดการแข่งขันมาทั้งหมด 4 ครั้ง ไทยคว้าแชมป์ทั้งหมด 4 สมัย ขณะที่อินโดนีเซีย คว้าอันดับ 3 มา 3 สมัย ทีมชาติฟุตซอลอินโดนีเซีย มี เคนสุเกะ ทากาฮาชิ อดีตนักฟุตซอลทีมชาติญี่ปุ่นเป็นกุนซือ ซึ่งทำงานกับวงการฟุตซอลอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2018 ทั้งการคุมทีมชุดใหญ่และชุดยู-20 สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ 2021 เวียดนาม จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 21 พ.ย.-2 ธ.ค.64
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.