ใครคือผู้โชคดีคนนั้น? วงในเผย ส.บอลใช้โค้ชไทยคุมทัพล่าเหรียญทองซีเกมส์ 2023
วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565 เพจ บี บางปะกง 1 ในผู้คร่ำหวอดกับวงการกีฬาไทย ได้รายงานว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มี พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นประมุขของสมาคม ได้แจ้งต่อคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ถึงการแข่งขันซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา ในปีหน้าไว้แล้ว
ซึ่งทางเพจ บี บางปะกง ได้เปิดเผยว่า สมาคมฟุตบอล ได้แจ้งไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยแล้วว่า การแข่งขัน ซีเกมส์ 2023 ในปีหน้า ทีมชาติไทย จะใช้งานโค้ชที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีชื่อที่แน่ชัดว่าจะเป็นใครมาเป็นนายใหญ่รับงานในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า หากซีเกมส์ 2023 ทีมชาติไทย ไม่สามารถคว้าเหรียญทองในประเภทฟุตบอลชายได้ ก็อยากจะให้ นายกสมาคมฟุตบอลลาออกจากตำแหน่งไป ซึ่งถือเป็นการพูดที่ฮือฮามากๆ และกดดันถึงบิ๊กอ๊อดเต็มๆ เลยทีเดียว.
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.