Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

คูตินโญ่-กรีซมันน์นำทัพ!เปิด5นักเตะบาร์เซโลน่าจำเป็นต้องขายซัมเมอร์นี้

Football Sponsored
Football Sponsored

บาร์เซโลนา มีช่วงเวลาที่สำคัญช่วงการเปิดตลาดช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยอนาคตของ ลิโอเนล เมสซี ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ รวมไปถึง ข้อจำกัดทางการเงินอันมากมาย อันเนื่องมาจากการโควิด-19 ยักษ์ใหญ่คาตาลัน จำต้องดำเนินการอย่างชาญฉลาดเพื่อหาเงินมาเสริมทัพชุดใหญ่

    บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ ลาลีกา สเปน จำเป็นต้องปล่อยนักเตะเป็นจำนวนไม่น้อย เพื่อหาเงินมาเสริมทัพนักเตะใหม่ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายหน้าร้อนนี้ ภายใต้กุนซืออย่าง โรนัลด์ คูมัน และ ประธานอย่าง โจน ลาปอร์ต้า มีใครบ้างเข้าข่ายที่จะต้องโดนเลหลังปล่อยตัวออกจากทีมไป แฟนๆบาร์ซ่า มาดูกัน

    1.จูเนียร์ ฟีร์โป้ 

    หนึ่งในนักเตะที่เชื่อมโยงกับการย้ายออกจาก บาร์เซโลนา อย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ก็คือ จูเนียร์ ฟีร์โป้  กองหลังชาวสเปน ผู้ที่ไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดการทีม โรนัลด์ คูมัน ซึ่งการย้ายออกจากสโมสร ดูจะเหมาะกับทุกคนที่เกี่ยวข้องมากที่สุด

    โดยที่ผ่านมาแบ็คซ้ายผู้นี้ ลงเล่นเพียง 6 นัดให้กับทีมในลีกฤดูกาลนี้ และด้วยอายุเพียง 24 ปี ก็น่าจะยังมีหลายทีมในยุโรป สนใจดึงเขาไปร่วมทีม

    2.ซามูแอล อุมติตี้

    หลังย้ายมาร่วทีม บาร์เซโลนา ตั้งแต่ปี 2016 ผลงานของ ซามูแอล อุมติตี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาดูจะตกต่ำลงไปอย่างมาก กองหลังแชมป์โลกผู้นี้ ประสบปัญหาเรื่องฟอร์มและความฟิต พร้อมกับอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าอยู่ตลอด

    โดยกองหลังชาวฝรั่งเศสวัย 27 ปีลงเล่นในลีกได้เพียง 5 เกมในฤดูกาลนี้ ด้วยผลงานที่ไม่คงเส้นคงวาที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงการที่ โรนัลด์ คูมัน นิยมใช้กองหลังดาวรุ่งอย่าง โรนัลด์ อเราโจ้ และ ออสการ์ มิงเกซซ่า ก็ยิ่งทำให้การการันตีตัวจริงของ อุมติตี้ แย่เข้าไปใหญ่

    อุมติตี้ มีสัญญากับบาร์เซโลนา ถึงปี 2023 ซึ่งทำให้ บาร์เซโลน่า น่าจะหาทางปล่อยเขาไปจากทีม ซึ่งน่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านยูโร หรือประมาณ 730 ล้านบาท

    3.มาร์ติน เบรธเวท

    บาร์เซโลน่าสร้างความประหลาดใจให้กับโลกลูกหนัง เมื่อพวกเขาเซ็นสัญญากับ มาร์ติน เบรธเวท จาก เลกาเนส ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 แม้กองหน้าชาวเดนมาร์กวัย 29 ปี จะทำได้ดียามเมื่อลงสนามช่วยทีม แต่เขายังไม่ดีพอที่จะช่วยทีมยักษ์ใหญ่คาตาลันสู่ถ้วยรางวัลที่ต้องการ

    กองหน้าอเนกประสงค์ผู้ที่สามารถเล่น ตรงกลางหรือ กึ่งปีก ควรจะโดนขายในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ เพื่อลดค่าจ้างของบาร์เซโลนา และเปิดพื้นที่สำหรับการเซ็นสัญญาใหม่ที่อาจเกิดขึ้น

    4.ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

    

    หนึ่งในการย้ายทีมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ไม่เคยตอบแทน บาร์เซโลน่า ได้เท่าที่จ่ายไป และดูเหมือนว่าเขาจะต้องดิ้นรนเพื่อฟอร์มหรือความฟิตอยู่เสมอ 

    ด้วยการที่ ลิเวอร์พูล วางโครงสร้างข้อตกลงไว้อย่างชาญฉลาด ทำให้ บาร์เซโลน่า ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมจำนวนมาก แถม คูตินโญ่ ยังเป็นหนึ่งในนักเตะค่าเหนื่อยสูงของสโมสร ซึ่งแน่นอน หาก โจน ลาปอร์ต้า และ โรนัลด์ คูมัน ต้องการที่จะหาเงินมาสริมทีมในซัมเมอร์นี้ ชื่อของนักเตะที่จะต้องปล่อยตัวออกไปต้องมีชื่อของดาวเตะบราซิเลี่ยนผู้นี้อย่างแน่นอน

    5.อ็องตวน กรีซมันน์

    การที่รวมชื่อ อ็องตวน กรีซมันน์ อยู่ในลิสต์ที่ต้องขาย อาจจะกระทบความรู้สึกของแฟนบอล บาร์เซโลน่า จำนวนไม่น้อย เพราะกองหน้าชาวฝรั่งเศส โชว์ฟอร์มได้เยี่ยม และส่งผลต่อทีมในฤดูกาลนี้อย่างอย่าง 

    โดยยิงได้ 8 ประตู และแอสซิสต์อีก 6 ประตูในลีกฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตามหลังอายุ 30 ปี มูลค่าตลาดในอนาคต น่าลดลงอย่างมาก และบาร์เซโลนาจะต้องตัดสินใจรวดเร็ว เพื่อให้หากพวกเขาได้ราคาที่ดี

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.