Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

คล็อปป์-ฟลิคมีลุ้นแต่ยังไม่ใช่เต็ง1!5ตัวเลือกกุนซือคุมเยอรมันต่อเลิฟ

Football Sponsored
Football Sponsored

เปิดรายชื่อ 5 กุนซือที่เป็นตัวเต็งจะได้คุมทีมชาติเยอรมัน ต่อจาก โยอัคคิม เลิฟ โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีลุ้นด้วย แต่ยังไม่ใช่เต็ง 1 ตามมุมมองของร้านพูล

     โยอัคคัม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมัน ยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า ตัวเองจะก้าวลงจากตำแหน่งหลังจากจบศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” ที่เลื่อนมาแข่งช่วงกลางปีนี้ 

    เลิฟ วัย 61 ปี คุมทีมชาติเยอรมัน ต่อจาก เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ เมื่อปี 2006 โดยตลอด 15 ปี ได้สร้างผลงานยอดเยี่ยมมากมายอาทิ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014, แชมป์ พีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2017, รองแชมป์ ยูโร 2008 และอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2010

    จากการที่ เลิฟ ประกาศเตรียมลงจากตำแหน่ง ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) ต้องเดินหน้าหาเทรนเนอร์คนใหม่ และนี่คือ 5 ตัวเต็งตามมุมมองของ เบตแฟร์ บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของอังกฤษ

    1. สเตฟาน คุนท์ซ: อัตราต่อรอง 2/1 (แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน) 

    สเตฟาน คุนท์ซ วัย 58 ปี ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 หลังเป็นคนในสมาคมลูกหนังเมืองเบียร์ โดยเวลานี้ทำหน้าที่เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน รุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี 

    คุนท์ซ สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการนำทัพ “อินทรีเหล็ก” ชุดเล็ก คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อปี 2017  ด้วยการเอาชนะ สเปน 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ

    2. เจอร์เก้น คล็อปป์ : อัตราต่อรอง 3/1 (แทง 1 จ่าย 3 ไม่รวมทุน) 

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เป็นกุนซืออีกหนึ่งรายที่มีข่าวจะได้ก้าวขึ้นมาคุมทีมชาติเยอรมัน และเจ้าตัวก็หวังจะได้ทำหน้าที่นี้ในอนาคตเช่นกัน

    คล็อปป์ ประสบความสำเร็จในการคุม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะการนำ “หงส์แดง” กลับมาคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

    อย่างไรก็ตาม ในซีซั่นนี้ คล็อปป์ ทำผลงานไม่ดีกับ ลิเวอร์พูล โดยล่าสุดแพ้คารัง แอนฟิลด์ 6 นัดติด จนหล่นมาอยู่อันดับ 8 ของตารางแล้ว

    3. ยูเลี่ยน นาเกลส์มัน : อัตราต่อรอง 6/1 (แทง 1 จ่าย 6 ไม่รวมทุน) 

    ยูเลี่ยน นาเกลส์มัน กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมไปแล้ว หลังจากพา แอร์เบ ไลป์ซิก ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นคู่ต่อกรลุ้นแย่งแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค 

    นอกจากนี้ นาเกลส์มัน ยังขึ้นชื่อเรื่องการเล่นเกมรุกที่สวยงาม และวางแท็กติกได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อาจจะยังมีประสบการณ์น้อยไปหน่อย เพราะอายุเพิ่ง 33 ปีเท่านั้น

    4. ฮันซี่ ฟลิค : อัตราต่อรอง 8/1 (แทง 1 จ่าย 8 ไม่รวมทุน) 

    ฮันซี่ ฟลิค ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อฤดูกาลก่อนด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ทั้ง บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล, และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงยังได้แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และเดเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ 2020 อีกด้วย

    ในซีซั่นนี้ ฟลิค ยังพา “เสือใต้” เป็นจ่าฝูง บุนเดสลีกา รวมทั้งได้แชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้มีหลายคนเชียร์ให้ไปคุมทีมชาติเยอรมัน 

    ฟลิค ไม่ใช่คนอื่นไกลสำหรับทีมชาติเยอรมัน เพราะเคยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของ เลิฟ มาแล้วระหว่างปี 2006-2014

    5. อาร์แซน เวนเกอร์: อัตราต่อรอง 10/1 (แทง 1 จ่าย 10 ไม่รวมทุน) 

    อาร์แซน เวนเกอร์ ยอดกุนซือชางฝรั่งเศส ประสบความสำเร็จในการคุม อาร์เซน่อล มาอย่างยาวนานระหว่างปี 1996-2018 ก่อนไปรับงานประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลให้กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)

    ฟุตบอลสไตล์ เวนเกอร์ ถือว่าสนุกและดึงดูดผู้ชม แต่จากการที่เป็นคนต่างชาติคงทำให้มีโอกาสไม่มากที่จะได้ไปคุมทีมชาติเยอรมัน
 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.