Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“สุโขทัย” แยกทาง “บาจโจ้” แล้ว ตามวิถีฟุตบอล – ผู้จัดการออนไลน์

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:   ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ความเคลื่อนไหวของสโมสรสุโขทัย เอฟซี ล่าสุด ดร.อนงค์วรรณ เทพสุทิน ประธานสโมสรสุโขทัย เอฟซี กล่าวยอมรับที่ จอห์น บาจโจ้ กัปตันของทีม “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ยุติการเป็นนักเตะในสังกัดแล้ว แม้บาจโจ้จะมีสัญญาค้าแข้งให้กับทีมอีก 1 ฤดูกาล อย่างไรก็ดีการจากลาครั้งนี้เป็นไปด้วยดี

“ขอบคุณบาจโจ้ ที่ช่วยสร้างความสุขให้คนสุโขทัย สำหรับบาจโจ้แล้ว พี่รักเหมือนลูก เพราะเขาเป็นคนนิสัยดี รู้จักสัมมาคารวะ วัฒนธรรมไทย เข้ากับคนสุโขทัยได้ทุกเพศทุกวัย และเป็นนักเตะที่คนสุโขทัยรักมาก สำหรับจากลาครั้งนี้ ถือว่าเป็นวิถีฟุตบอล ซึ่งบาจโจ้คงคิดอย่างรอบคอบและเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเขาและครอบครัว” ดร.อนงค์วรรณ กล่าว

ประธานสโมสรสุโขทัย เอฟซี ฝากถึงแฟนบอลสุโขทัย เอฟซี ด้วยว่าขอให้ติดตามการปรับปรุงเปลี่ยนยแปลงของสุโขทัยเอฟซี ในฤดูกาลที่มาถึง สำหรับนักเตะที่แฟนบอลจับตามองว่าจะเป็นขวัญใจคนต่อไป สโมสรฯ ได้เฟ้นหาและพิจารณาปัจจัยต่างๆ ด้วยยความรอบคอบ เพื่อให้การเริ่มต้นในไทยลีก2 นั้นสร้างความสุขให้แฟนบอลมากที่สุด ขอให้แฟนบอลเฝ้าเชียร์สุโขทัยเอฟซีต่อไป เพราะทีมบริหารตั้งใจว่า ต้องโอบอุ้มกีฬาฟุตบอลของจังหวัดให้ยั่งยืนตลอดไป

ประธานค้างคาวไฟ ยังกล่าวถึงกรณีที่สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัยรายงานพบนักเตะติดเชื้อโควิด-19 จำนวน1 ราย เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ว่า สโมสรฯ ได้เรียกนักเตะที่ยังมีสัญญากับทีมเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการสาธารณสุข ที่ระบุว่าก่อนเข้าพื้นที่ต้องตรวจคัดกรอง เพราะที่ผ่านมานักเตะไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย และยังไม่มีการเรียกรวมตัวเพื่อฝึกซ้อม อย่างไรก็ดีเมื่อพบผู้ติดเชื้อและทราบว่ามีผู้เสี่ยงสัมผัสได้ขอให้กักตัวอย่างเร่งด่วนและตามมาตรการของสาธารณสุข ขณะเดียวกันต้องสอบประวัติและไทม์ไลน์ให้ชัดเจนมากขึ้นและเพิ่มความถี่ในการตรวจคัดกรองมากขึ้นเช่นกัน

“สำหรับการเรียกรวมตัวเพื่อให้เฮดโค้ชดูตัว ก่อนจะตัดสินใจว่านักเตะคนไหนเหมาะสมกับทีม ในวันที่ 15 พฤษภาคมนั้น ล่าสุดได้มอบหมายให้เขตพงศ์ กุลนาถศิริ ผู้จัดการทีม พิจารณาและบริหารจัดการตามความเหมาะสมต่อไป” ประธานค้างคาวไฟ กล่าว

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.