น้าฉ่วย กล่าวว่า “เท่าที่คุยกันกับท่านประธานสโมสร ผมไม่รู้ว่าท่านคิดยังไง สุดท้ายมาลงตัวที่สโมสรขอยกเลิกสัญญา ถ้าถามว่าสาเหตุที่ต้องแยกทางกันครั้งนี้ คือเรื่องเงินหรือเปล่า ถ้าเป็นเรื่องเงิน เราสามารถคุยกันได้ คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องเงิน เขาไม่เลือกที่จะต่อรอง เขาตั้งใจจะไม่เอาเราอยู่แล้ว คงทำอะไรไม่ได้ ต้องแยกทาง”
“เราตกใจ ทีแรกไม่ได้ขยับอะไร คิดว่าจะได้ทำต่อในไทยลีก วางแผนไว้บ้างแล้ว จะเริ่มซ้อมวันไหน อะไร อย่างไร แต่พอถึงตรงนี้ทำอะไรไม่ถูก เหมือนผมโดนชกสลบไปงีบนึง แล้วตื่นขึ้นมาคงต้องรับสภาพไป”
“ผมเองอยากจะรู้สาเหตุว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ผมทำเพื่อสโมสร แม้จะเพิ่งเข้ามาทำทีม แต่ผูกพัน อยากทำอะไรให้กับสโมสรได้เพิ่มเติมอีกในไทยลีก”
“การยกเลิกสัญญาอาจจะเป็นสาเหตุอื่นหรือเปล่า ทุกหลังเกม ทุกครั้งผมจะไปทานข้าวกับท่านประธาน กลับตี 1ตี 2 ทุกครั้ง ผมไป แต่ผมไม่ดื่ม อาจจะมีพูดไม่เข้าหูท่านบ้างหรือเปล่า เหมือนลิ้นกับฟันหรือเปล่า แต่ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดอะไร เพราะไม่มีใครบอกได้”
“ผมเคารพท่านตลอด แต่การยกเลิกสัญญาครั้งนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งการแยกทางก็ถือเป็นการเคารพการตัดสินใจของสโมสร”
“ความรู้สึกของผม คงเป็นห่วงสโมสร รู้สึกรักและผูกพันกับสโมสร นักฟุตบอลที่ต่อสัญญาไปแล้วก็แล้วแต่ตัวนักเตะครับ ถ้าเขาอยู่ก็อยู่ ผมไม่อะไรเลย อยากฝากนักเตะว่า อย่าไปมองเรื่องโค้ชว่าจะเป็นใคร ขอให้เล่นเพื่อสโมสร อยู่เพื่อสโมสร ไม่ต้องนึกถึงโค้ชว่าจะเป็นใคร เล่นเพื่อตัวเองและครอบครัว”
“ถึงตอนนี้ผมคงต้องบอกลาแฟนบอลหนองบัว ที่ไม่มีโอกาสได้คุมทีมในไทยลีก แต่หวังว่าหนองบัวจะประสบความสำเร็จในอนาคต ถ้าโอกาสหน้าเป็นไปได้หวังว่าจะได้กลับมาคุมทีมนี้อีก”
“สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณท่านประธานที่ให้โอกาสผมและทีมงานเข้ามาทำทีม ถ้าการแยกทางครั้งนี้เป็นเรื่องไม่ดีผมขอโทษด้วยครับ เพราะผมไม่รู้ว่าสาเหตุที่ต้องแยกทางคืออะไร ขอโทษทุกฝ่ายด้วยจริงๆ”
This website uses cookies.