แฟนแมนยูรับรู้หน่อย!วงในเผยเกลเซอร์เสียใจมากหลังเอ็ดอำลาตำแหน่ง

โจเอล เกลเซอร์ เจ้าของร่วม ทีม “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด มีการายงานจากแหล่งข่าววงในว่า เจ้าของสโมสรรู้สึก “เสียใจมาก” กับการลาออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด

ฟุตบอล อินไซด์เดอร์ รายงานข่าวว่า โจเอล เกลเซอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันและประธานร่วมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รู้สึกแย่มากที่ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ลาออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า วู้ดเวิร์ด จะออกจากตำแหน่งรองประธานบริหารของสโมสร เมื่อสิ้นสุดปี 2021 โดยมีรายงานอ้างว่าเกิดจากความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก

โดยที่เคยมีรายงานระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงของพรีเมียร์ลีกบอกกับ สกายสปอร์ต ว่า วู้ดเวิร์ด มีส่วนร่วมในแผนการจัดการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก “ตั้งแต่แรก”

แม้ว่าการจากไปของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด จะเกิดขึ้นท่ามกลางการเฉลิมฉลองจากแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ คีแรน แมคไกวร์ คอลัมนิสต์ ฟุตบอล อินไซด์เดอร์ ได้อ้างว่า โจเอล เกลเซอร์ เจ้าของร่วมทีมนั้นรู้สึก “เสียใจมาก” จากการ จากไปของ
เขา

แมคไกวร์อ้างว่าเป็นเพราะ “เอ็ด วู้ดเวิร์ด เหมาะกับ เกลเซอร์” เนื่องจาก เขาเชื่อในการให้ความสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจมากกว่าผลลัพธ์ในสนาม

คอลัมนิสต์ ฟุตบอล อินไซด์เดอร์ กล่าวต่อ โดยอ้างว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จัดอยู่ประเภทเดียวกัน “โซลชากล่าวก่อนที่ ยูไนเต็ด จะเล่นกับ มิลาน ว่าการคว้าถ้วยรางวัล เป็นเพียงการแสดงถึง “อีโก้” ของผู้จัดการทีมเท่านั้น นั่นก็คือเขาหมายความว่า การได้ถ้วยรางวัลเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญเท่าไหร่นัก”

โดย แมคไกวร์ อธิบายปิดท้ายว่า “นั่นเป็นทัศนคติเดียวกันกับบอร์ดบริหาร และนั่นคือปัญหาของทีม”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport

ฟุตบอล

Tags: footballfootball clubกีฬาถ่ายทอดผลการแข่งขันฟุตบอลสดสโมสรฟุตบอลแข่งขัน

4 ปี ago

ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง