Football Sponsored

พวกเขาได้บทเรียนแล้ว!คล็อปป์ป้องเจ้าของทีมลิเวอร์พูล

Football Sponsored
Football Sponsored

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล กางปีกป้อง เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป กลุ่มทุนเจ้าของทีม พร้อมบอกว่า จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ ไม่จำเป็นต้องขอโทษตนเป็นการส่วนตัวด้วย

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวปกป้อง เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) กลุ่มทุนเจ้าของทีมจากสหรัฐอเมริกาว่าไม่ใช่กลุ่มคนที่นิสัยเลวร้ายแต่อย่างใด

    ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา เอฟเอสจี นำโดย จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ โดนแฟนบอล ลิเวอร์พูล บางส่วนตำหนิอย่างรุนแรงโทษฐานที่เคยคิดนำทีมไปจัดศึก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ซึ่งถีงแม้ เฮนรี่ จะออกมาอัดคลิปพูดขอโทษแล้ว แต่ “เดอะ ค็อป” กลุ่มหนึ่งก็ยังไม่ยอมยกโทษให้ และต้องการให้ เอฟเอสจี ออกจากทีมรักของพวกเขาไปซะ

    คล็อปป์ เผยว่า “ผมหวังว่าสายสัมพันธ์ระหว่างเรากับแฟนบอลของเราจะแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงหวังว่าเราจะไม่พูดถึงการตัดสินใจแย่ๆ ในอดีต ผมไม่เข้าใจชีวิตแบบนี้ พวกเขาเป็นคนดี ผมรู้จักเหล่าเจ้าของทีมเป็นอย่างดี ผมรู้ดีว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ ที่จริงผมเองก็ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนที่แย่หรอกนะ”

    “พวกเขาทำการตัดสินใจที่ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าจะบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่แย่ก็ไม่ผิด แต่ชีวิตคนเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป นั่นเป็นมุมมองของผม และผมไม่สามารถบอกกับคนอื่นได้ว่าควรจะต้องมองเรื่องที่เกิดขึ้นแบบไหนดี”

    “มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับทีมต่างๆ เลย และจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ พวกเขาจะได้เรียนรู้จากบทเรียนของพวกเขา ผมค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนั้น เพียงแต่ตอนนี้เราต้องทำให้มั่นใจว่าเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากมัน อย่างเช่นเรื่องบรรยากาศภายในสโมสรที่อาจจะเปลี่ยนไป แน่นอนว่าทีมอื่นๆ เองก็คงหวังแบบนั้นเหมือนกัน”

    “เราไม่อยากให้เกิดเรื่องที่แฟนบอลมาเปิดศึกกับโค้ช, กุนซือ และทีม ผมไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นอย่างนั้นรึเปล่า แต่ถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ มันก็จะเป็นเรื่องแย่ เพราะยังไงซะการแข่งขันรายการนั้นมันก็ไม่เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาพยายามทำบางอย่างและไม่ได้รับอนุญาตให้ทำมัน ดังนั้นก็กลับมาสู่เกมที่สวยงามเหมือนที่ผ่านๆ มากันดีกว่า”

    “ผมไม่ใช่พวกไร้เดียงสา ผมรู้ดีว่ามันจะมีการพูดถึงหลายเรื่อง ผมไม่มีปัญหาอะไรกับการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เราทุกคนต่างก็อยากให้ศึก ซูเปอร์ลีก มันไม่เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีการเปิดเผยศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รูปแบบใหม่ขึ้นมา และใครก็ตามที่อ่านคอนเซ็ปต์นี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วบอกว่า -นี่เป็นการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ- หรือบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเป็นหลักแล้วล่ะก็ ผมก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!”

    “พวกเขาจัดรายการอย่าง เนชันส์ ลีก ที่ทำให้มีเกมเล่นมากขึ้น หรือศึกชิงแชมป์สโมสรโลกโดยที่ไม่ได้ถามความเห็นคนอื่นเลย อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาทำอย่างนั้นน่ะเหรอ ? ก็เงินน่ะสิ มันเกิดเรื่องอย่างนี้อยู่บ่อยๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วเราก็ยังสามารถมีช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบได้อยู่เสมอ เราสามารถเล่นฟุตบอลตามเดิมและสนุกไปกับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนถึงตอนนี้สิ่งนั้นยังไม่เปลี่ยนไป”

    “ผมแค่อยากทำให้มั่นใจว่าสิ่งนั้นจะยังคงเหมือนเดิม ลิเวอร์พูล มีความสำคัญมากกว่าแค่เรื่องนี้ และผมอยากทำให้มั่นใจว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันเป็นเรื่องเยี่ยมที่รายการนั้นไม่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ แน่นอนว่าถ้ามันเกิดรายการแบบนั้นขึ้นแล้วมันก็คงจะเป็นเรื่องแย่ แต่มันก็จบไปแล้ว และตอนนี้ผมก็มีงานต้องทำ”

    กุนซือชาวเยอรมันเสริมว่าจนถึงตอนนี้ เฮนรี่ ยังไม่ได้ขอโทษตนแบบตัวต่อตัวเลย แต่เสริมว่าไม่มีปัญหากับเรื่องนั้นแต่อย่างใด “ไม่นะ เขาไม่ได้ติดต่อมาหาเราโดยตรงเลย แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจำเป็นต้องทำอย่างนั้น เขาพูดถึงผมในตอนที่กล่าวขอโทษ และยังพูดถึงทีมด้วย สำหรับผมน่ะแค่นั้นก็ถือว่ามากพอแล้ว”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.