Football Sponsored

บุรีรัมย์ ชี้แจงไทยลีก รับผิดกรณีดราม่า ติดกล้องห้องพักทีมเยือน

Football Sponsored
Football Sponsored
บุรีรัมย์ ชี้แจงไทยลีก รับผิดกรณีดราม่า ติดกล้องห้องพักทีมเยือน

สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำหนังสือชี้แจงไทยลีก กรณีมีการพบกล้องระบบวงจรปิดในห้องแต่งตัวทีมเยือน พร้อมทำตามระเบียบด้วยการถอดออกในวันที่มีการแข่งขัน

กลายเป็นประเด็นดราม่าในเกมฟุตบอลไทยลีก 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากกรณีกล้องวงจรปิดในห้องพักทีมเยือนในสนามช้างอารีน่า ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายหลังจากมีภาพออกมาทางโลกโซเชี่ยล หลังจากทางทีมคู่แข่งอย่าง ชลบุรี ได้เกิดข้อสงสัย พร้อมตั้งคำถามถึงกล้องวงจรปิดดังกล่าว ว่ามีในห้องพักนักกีฬาได้อย่างไร

ล่าสุด สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ทำหนังสือชี้แจง โดยมีข้อความดังนี้ 

ไทยลีก เผย “บุรีรัมย์” ต้องถอดวงจรปิด หากมีการติดจริง

พบติดกล้องวงจรปิด ห้องทีมเยือน ทีมในศึกฟุตบอลไทยลีก 2

ตามที่ไห้มีข้อมูลปรากฎทางสื่อมวลชนว่าสถานที่ จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการไทยลีกของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการติดตั้งกล้องบันทึกกาพระบบวงจรปิดในห้องแต่งตัวนักกีฬา ซึ่งผิดระเบียบการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก นั้นสโมสรสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  ขอเรียนชี้แจงว่า สนามช้าง อารีนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการติดตั้งกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิด ครอบคลุมทุกพื้นที่ของสนาม และบริเวณภายนอกสนาม จำนวนทั้งสิ้น 156 ตัว 

ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัย เนื่องจากสนามช้าง อารีนา เป็นพื้นที่ที่ปิดให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าชมเพื่อเป็นการทัศนศึกษา และร่วมกิจกรรม “Stadium Tour” โดยเฉพาะห้องแต่งตัวนักกีฬาทีมเหย้า และทีมเยือน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจและมีผู้เช้าชมมากที่สุด จึงจำเป็นต้องติดตั้งกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดและมีการบันทึกภาพไว้ทุกวัน เพื่อการรักษาความปลอดภัยเป็นสำคัญ ภาพที่บันทึกไว้ ไม่ได้นำมาใช้เป็นข้อมูลที่ทำให้เกิดการได้เปรียบในการแข่งขันแต่อย่างใด

สโมสรบุรีรัมย์ ยูในต็ด ขอยอมรับว่าได้กระทำผิดระเบียบการจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการไทยลีก และจะถอดกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดออกจากห้องแต่งตัวนักกีพาทีมเยือนในวันจัดการแข่งขันและปฏิบัติตามระเบียบการจัดการแข่งขันของบริษัท ไทยลึก จำกัด อย่างเคร่งครัดต่อไป


Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.