Football Sponsored

ค่าตัวสถิติสโมสรก็ไม่สน!ไบรท์ตันฯปัดขายไกเซโต้ให้อาร์เซน่อลรอบ2

Football Sponsored
Football Sponsored

สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อก้องของอังกฤษ ตีข่าว ไบรท์ตันฯ ปฏิเสธข้อเสนอจาก อาร์เซน่อล ที่ขอซื้อ มอยเซส ไกเซโด้ เป็นรอบที่ 2 โดยพวกเขายังแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ต้องการปล่อยแข้งวัย 21 ปี ในตลาดช่วงหน้าหนาวนี้

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน สโมสรแกร่งแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปฏิเสธข้อเสนอจาก อาร์เซน่อล ที่ขอซื้อ มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางคนเก่งของทีมเป็นครั้งที่สอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะให้เงินถึง 70 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) ก็ตาม จากการรายงานของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อดังของเมืองผู้ดี

ไกเซโด้ ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมอย่างหนักตลอดช่วงที่ผ่านมา หลังจากเขาทำผลงานได้โดดเด่นกับ ไบรท์ตันฯ โดยที่ เชลซี กับ อาร์เซน่อล คือ 2 ทีมที่ตามล่าตัวเขาหนักเป็นพิเศษ ซึ่งก่อนหน้านี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” กับ “ไอ้ปืนใหญ่” เสนอที่จะจ่ายเงินให้ 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท) กับ 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,400 ล้านบาท) ตามลำดับ เพื่อเป็นค่าตัวของดาวเตะชาวเอกวาดอร์ แต่ก็โดน ไบรท์ตันฯ ปัดตกไป

ทั้งนี้ ไม่กี่วันก่อน ไกเซโด้ ออกมาประกาศเองว่าต้องการย้ายออกจากทีม รวมถึงไม่ได้ลงซ้อมร่วมกับต้นสังกัดด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีข่าวว่า อาร์เซน่อล ยื่นซื้อแข้งวัย 21 ปี เป็นรอบที่ 2 โดยที่ให้เงินเพิ่มเป็น 70 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม สกายสปอร์ตส์ ระบุว่าตอนนี้ ไบรท์ตันฯ ก็ปฏิเสธข้อเสนอที่ว่าไปแล้ว โดยจุดยืนของพวกเขายังเหมือนเดิม นั่นคือไม่ต้องการปล่อย ไกเซโด้ ออกจากทีมในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2 ช่วงเดือนมกราคมนี้

ที่จริงถ้าหาก ไบรท์ตันฯ ตอบรับข้อเสนอ 70 ล้านปอนด์จาก อาร์เซน่อล แล้วนั้น มันก็จะทำให้ ไกเซโด้ เป็นนักเตะที่ย้ายออกจากทัพ “เดอะ ซีกัลล์ส” ด้วยค่าตัวสูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรเลย หลังจากเจ้าของสถิติดังกล่าวคือ มาร์ค กูกูเรย่า ที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ดิ อินเดเพนเดนท์ สื่อชื่อดังของอังกฤษบอกว่า ไบรท์ตันฯ ตั้งค่าหัวของ ไกเซโด้ เอาไว้ที่ 90 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท)

ที่มาของภาพ : gettyimages

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.