ทางการ! บายเซติช เซ็นสัญญาฉบับใหม่ ลิเวอร์พูล
กำลังสำคัญในอนาคต… สเตฟาน บายเซติช แข้งดาวโรจน์วัย 18 ปี สะบัดหมึกเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับ ลิเวอร์พูล เรียบร้อย พร้อมเปิดใจ แฮปปี้สุดๆ ที่จะได้อยู่รับใช้สโมสรยาวๆ
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมาว่า สเตฟาน บายเซติช กองกลางดาวรุ่งคนเก่ง ได้จรดปากกาเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับสโมสรเป็นที่เรียบร้อย
ถึงแม้ “หงส์แดง” ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดของสัญญา แต่สื่อดังอย่าง ดิ แอธเลติก รายงานว่า ดาวเตะวัย 18 ปี ซึ่งมีคุณพ่อเป็นชาวเซอร์เบียน และคุณแม่เป็นชาวสแปนิช ได้รับสัญญาฉบับใหม่ระยะเวลา 4 ปีครึ่ง ซึ่งนั่นทำให้เจ้าตัวได้อยู่โยงค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ ยาวถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2027 เลยทีเดียว
“แน่นอน ผมมีความสุขมากๆ และสุดตื่นเต้นที่จะได้เล่นให้สโมสรแห่งนี้ต่อไปอีกหลายปี” บายเซติช เปิดใจ “ผมและครอบครัวของผมรู้สึกภูมิใจมากๆ ที่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรแห่งนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ มันเป็นสิ่งที่ผมฝันถึงมาตลอดสองปีที่อยู่ที่นี่ ผมทำงานอย่างหนักมาตลอดก็เพื่อสิ่งนี้”
ทั้งนี้ บายเซติช ย้ายมาจาก เซลต้า บีโก้ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 ซึ่งตอนแรกเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ยู-18 และ ยู-21 ก่อนที่จะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว และฤดูกาล 2022/23 นี้ เจ้าตัวลงเล่นให้ “หงส์แดง” ไปแล้วรวมทุกรายการ 10 นัด ทำได้ 1 ประตู
ที่มาของภาพ : twitter.com
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.