Football Sponsored

'กรวีร์' เผยปรับคิวเตะไทยลีกลงตัว ยังไม่มีสโมสรไหนคัดค้าน

Football Sponsored
Football Sponsored

‘กรวีร์’ เผยปรับคิวเตะไทยลีกลงตัว ยังไม่มีสโมสรไหนคัดค้าน

ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับยืนยันจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียตะวันตก (WAFF) ให้ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก “WAFF 10th Championship” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม-2 เมษายนนี้

โดยการแข่งขันรายการนี้จะทับซ้อนกับการแข่งขันของ “รีโว่ ไทยลีก 2022/23” ซึ่งนัดสุดท้ายก่อนเข้าฟีฟ่าเดย์ จะแข่งขันวันที่ 18-19 มีนาคม ส่วนหลังจบฟีฟ่าเดย์ จะกลับมาแข่งขันวันที่ 1-2 เมษายน อย่างไรก็ตามทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้สั่งการบริษัท ไทยลีก จำกัด ในการคุยกับสโมสรเพื่อปรับโปรแกรมให้ทีมชาติไทยสามารถเดินทางไปร่วมแข่งขันได้

ล่าสุด “บิ๊กแชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เปิดเผยว่า การปรับโปรแกรมการแข่งขันไทยลีกลงตัวแล้วไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้ส่งผลกระทบกับสโมสร เพราะไม่ได้มีการยืดเวลาปิดลีกออกไปแต่อย่างใด แต่จะเป็นการเพิ่มโปรแกรมในส่วนของกลางสัปดาห์เข้าไป ทำให้สโมสรไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งแผนทั้งหมดได้ส่งให้สโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เรามีทางเลือกให้สโมสรได้เลือกหลายทาง อาทิเช่นขยับโปรแกรม 18-19 มีนาคม มาแข่งขันในวันที่ 14-15 มีนาคม เพื่อให้สโมสรที่มีนักเตะติดทีมชาติได้เตะก่อน ขณะที่เดียวกันก็ยังมีช่องว่างก่อนหยุดเทศการสงกรานต์ ซึ่งจะว่าง 1 สัปดาห์ก่อนถึงสงกรานต์ในช่วงกลางสัปดาห์ก็ยังใส่โปรแกรมแข่งขันได้อีก โดยทั้งหมดจะทำให้ไม่ต้องขยายวันปิดลีกออกไป และไม่ได้แข่งขันถี่มากขึ้น ทำให้ไม่ส่งผลกระทบกับสโมสร ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีกระแสไม่เห็นด้วยจากสโมสร”

สำหรับโปรแกรมนัดที่ 24 ของฤดูกาลจากเดิมแข่งขันวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 18-19 มีนาคม ขยับมาเตะวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ 16-17 มีนาคม เพื่อให้ทีมชาติไทยเดินทางไปถึงยูเออีตามกำหนดการแข่งขันในวันที่ 18 มีนาคม ส่วนโปรแกรมนัดที่ 25 ของฤดูกาลจากเดิมเตะวันเสาร์-อาทิตยที่ 1-2 เมษายน ขยับไปเตะหลังเทศสงกรานต์ในวันอังคารและพุธที่ 18-19 เมษายน

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.