Football Sponsored

สเปอร์สเฉ่งกองเชียร์ตัวเองเตะแรมส์เดลเตรียมจัดการขั้นแรงสุด (มีคลิป)

Football Sponsored
Football Sponsored

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตำหนิแฟนบอลของทีมตัวเองที่ก่อความรุนแรงเกินเหตุด้วยการเตะหลังของ อาร่อน แรมส์เดล ผู้รักษาประตู อาร์เซน่อล หลังจบเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ “ไก่เดือยทอง” แพ้ 0-2 คารัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา

เดิมทีเกมนี้ก็เต็มไปด้วยความดุเดือดตั้งแต่ก่อนลงเล่นแล้ว หลังจากมันเป็นการเจอกันของ 2 คู่อริในทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน ซึ่งในระหว่างการแข่งขันนั้นมีแฟนบอล สเปอร์ส บางส่วนที่ตะโกนด่า แรมส์เดล ด้วย และนายด่านของ “ไอ้ปืนใหญ่” ก็ตอบโต้กลับไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์มันมาบานปลายตอนจบเกมไปแล้ว หลังจากตอนแรก แรมส์เดล มีชอตทะเลาะกับ ริชาร์ลิซอน นิดหน่อย ก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำตรงบริเวณหลังกรอบประตู แต่จังหวะนั้นกลับมีแฟนบอล สเปอร์ส คนหนึ่งที่เดินมาเตะใส่หลังของนายด่านชาวอังกฤษ ก่อนที่แฟนบอลคนนั้นจะโดนเจ้าหน้าที่สนามผลักลงไปอยู่ในบริเวณอัฒจันทร์แล้วรีบวิ่งหนีไป

แถลงการณ์ของ สเปอร์ส ระบุว่า “เรารู้สึกตกใจอย่างมากกับพฤติกรรมของแฟนบอลคนหนึ่งที่พยายามทำร้ายร่างกาย อาร่อน แรมส์เดล ผู้รักษาประตู อาร์เซน่อล ตอนที่จบเกมในวันนี้ มันไม่ควรเกิดความรุนแรงใดๆ ก็ตามในเกมฟุตบอล ทางสโมสรได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อระบุตัวแฟนบอลคนนั้นแล้ว รวมถึงกำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล, อาร์เซน่อล และ แรมส์เดล เพื่อดำเนินมาตรการขั้นร้ายแรงที่สุด ซึ่งมาตรการที่ว่ารวมถึงการสั่งห้ามแฟนบอลคนนั้นเข้ามาใน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วย”

ด้านสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ก็ประณามเรื่องในครั้งนี้เช่นกัน “เราขอประณามเหตุการณ์เกี่ยวกับแฟนบอลที่เกิดขึ้นหลังจบเกม พรีเมียร์ลีก นัดระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับ อาร์เซน่อล นี่เป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้ เราจะทำงานร่วมกับตำรวจ, หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทั้ง 2 สโมสรเพื่อรับประกันว่าจะมีการดำเนินมาตรการที่เหมาะสม”

ที่มาของภาพ : gettyimages

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.