Football Sponsored

ถอดแนวคิด อาร์เตต้า กับ 3 ปีที่คุมปืน (1) คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา | thsport.com

Football Sponsored
Football Sponsored

ในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่ฟุตบอลระดับสโมสรกลับมาแข่งขันอีกครั้งหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ มิเกล อาร์เตต้า ทำหน้าที่ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ได้ครบ 3 ปีเต็ม

เป็นช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านไปรวดเร็วและเกิดเรื่องราวต่างๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงมากมายในทีม อาร์เซน่อล  

มีช่วงเวลาที่ล้มเหลว น่าผิดหวัง จนทำให้ อาร์เตต้า ถูกตั้งคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่กับตำแหน่งกุนซือปืนใหญ่

แต่ขณะเดียวกันก็มีช่วงเวลาที่ชื่นมื่นทั้งการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก และผลงานของทีมที่ยกระดับขึ้นมาอย่างมากจนกลายเป็นทีมลุ้นแชมป์เต็มตัวในฤดูกาลนี้ 

มิเกล อาร์เตต้า ได้ให้สัมภาษณ์กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ถึงช่วงเวลาตลอด 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่การตัดสินใจรับงานที่ยากและท้าทายที่สุดในชีวิต รวมไปถึงความคาดหวังในฤดูกาลนี้ 

  ทุกถ้อยคำ ทุกประโยค ล้วนเป็นแนวคิดที่คอยขับเคลื่อนให้ อาร์เซน่อล ได้กลับมาอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้งในฤดูกาลนี้ 

∎ ความท้าทายในการคุม อาร์เซน่อล 

“น่ากังวลเช่นกัน ช่วงเวลาที่เป็นกลางฤดูกาล สโมสรอยู่ในจุดที่ยากลำบาก บรรยากาศรอบๆ ก็ยากลำบาก และผมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนในชีวิต”

“จากนั้นคุณก็เห็นหลายคนนั่งล้อมรอบคุณไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสโมสร เอดู และ วินัย (เวนเกตชาม) พวกเขาต่างเชื่อว่าคุณคือคนที่ใช่ โอเค ผมอาจจะเชื่อว่าเป็นผมเป็นคนๆ นั้น”

“เมื่อเอาแบบนั้นแล้วคุณต้องพยายามในทุกวันเพื่อโน้มน้าวผู้คนรอบๆ ในทุกส่วนทำให้พวกเขาเข้าใจผู้เล่น ทำให้ให้ผู้เล่นเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการทำ และต้องใช้เวลาสักพักในการสร้างสัมพันธ์นั้น” 

∎ การคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปีแรกสำคัญอย่างไร?  

“มันสำคัญ และมันเกิดขึ้นในระหว่างโควิด เพียงสองเดือนที่เริ่มทำงาน โควิดก็เล่นงานและเราต้องหยุดทุกอย่าง ดังนั้นการสร้างความสัมพันธ์ การทำงานร่วมกัน และบรรยากาศจึงเป็นเรื่องยากมาก”

“การคว้าแชมป์จึงเป็นการรวมทุกคนเอาไว้ด้วยกัน สร้างความเชื่อมั่นบางอย่างให้เกิดขึ้น มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับผู้จัดการทีมที่คว้าแชมป์ได้ เช่นเดียวกับสโมสรที่ไม่ได้แชมป์มาหลายปี เป็นเรื่องยอดเยี่ยม” 

∎ คำถามที่เกิดขึ้นกับคุณในฤดูกาลที่สอง

“หลังจากผ่านช่วงโควิดมาพร้อมด้วยปัญหามากมายที่เรามี เรามีปัญหาเกี่ยวกับผู้เล่น ปัญหาจากภายนอก มันเป็นฤดูกาลที่มีคำถามมากมายเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่าง”

“แต่ผมรู้สึกได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของสโมสร จาก เอดู และจากทุกคนมาโดยตลอด ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ผมทำกำลังจะได้ผล ผมเองก็ชัดเจนเช่นกันว่าทีมและสโมสรอยู่จุดไหน มีสิ่งใดที่เป็นจริงได้ และสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้ ด้วยความคาดหวังว่าเราต้องมีในความเป็นสโมสรฟุตบอล อาร์เซน่อ”

 

∎ ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากช่วงเวลานั้น

“หลายสิ่งหลายอย่างเลย อย่างแรกคือความยากเกี่ยวกับงานนี้ ความสำคัญของการมีคนที่ใช่ มืออาชีพที่เหมาะสมอยู่รอบๆ ตัวคุณ และอย่างที่สามคือการยึดมั่นกับสิ่งที่คุณเชื่อ และสิ่งที่สัญชาตญาณบอกกับคุณ”

“หากคุณเริ่มฟังมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรทำ สิ่งที่คุณทำไม่ถูกต้อง มันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่คุณพยายามทำอยู่ ผมคิดว่าเมื่อคุณอยู่ในช่วงเวลาเหล่านั้น จงเดินหน้าต่อไป และทำในสิ่งที่คุณเชื่อ”

 การกลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสโมสร

“เมื่อเราพูดถึงความสำเร็จ มันคือการได้ชูถ้วยแชมป์ แต่สำหรับผม และทุกคนที่เกี่ยวข้อง มันรวมไปถึงสิ่งที่เราสร้างขึ้นรอบๆ สโมสรด้วย เมื่อผมออกจากสโมสรไปอยู่ที่อื่นแล้วมองย้อนกลับมาที่ทุกความเห็นเกี่ยวกับพลังงานที่มี เมื่อผมไปที่สนาม ผมก็สัมผัสมันได้

“วันหนึ่งถ้าผมมีโอกาส นี่เป็นสิ่งแรกที่ผมจะเปลี่ยนเพื่อให้แฟนบอลได้ภาคูภูมิใจ มีความหลงไหล และต้องการต่อสู้ พวกเขาคอยหนุนหลังสโมสรไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”

“ที่ผ่านมามันมีความหดหู่ ถูกวิจารณ์ และมีอารมณ์โกรธเคืองมากเกินไปซึ่งมันจะไม่มีทำงานให้ได้ผลเลย การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมเหล่านั้น และนำแสงสว่างกลับมาสู่สโมสรให้ได้เป็นสิ่งที่สวยงาม ผมเห็นแฟนบอลมาดูเรา คนที่ทำงานให้กับสโมสรเริ่มกำลังสนุกไปด้วย และส่งผ่านไปยังผู้เล่นอย่างทรงพลัง และหวังว่าเราจะสามารถสานต่อไปได้

 สิ่งที่เกิดขึ้นกับ โอบาเมย็อง

“ผมไม่ได้คนตัดสินใจเพียงผู้เดียว เราตัดสินใจร่วมกันในฐานะสโมสร เห็นได้ชัดว่ามีคำแนะนำของผม และสิ่งที่ผมรู้สึกว่าจำเป็นต้องทำหากเราต้องการไปถึงจุดที่หวังเอาไว้ แต่ผมไม่ได้ต้องการชี้เป้าไปที่ใครคนใดคนนึง มันก็มีหลายๆ คน และมันเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ที่เราพยายามสร้าง”

“ในท้ายที่สุด เมื่อคุณอยู่ในกระบวนการ และคุณต้องการไปให้เร็วขึ้น ทว่ามีคนคอยดึงเรือเอาไว้ด้านหลัง และทำให้น้ำหนักบนเรือเพิ่มขึ้น ผมขอโทษนะ แต่เราต้องการไปให้เร็วกว่านี้ และไม่มีเวลาหรือที่ว่างสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือทีมงาน ใครก็ตามที่สร้างความเสียหายต่อสโมสร เราจำเป็นต้องตัดสินใจแบบนั้น”

∎ แนวทางการเซ็นสัญญานักเตะดาวรุ่ง

“ในมุมมองของเราคิดว่ามันต้องทำแบบนี้ มันมีความเสี่ยงนะ แต่เราอยู่ในจุดที่ต้องคัดสรรผู้เล่นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทุกอย่างและสามารถเปลี่ยนทีมไปในทิศทางที่ต้องการได้”

“เราเชื่อว่าหากมีคาแรกเตอร์ที่เหมาะสม อย่างแรกคือความแข็งแกร่งด้านร่างกายเพื่อแข่งขันในลีกนี้ รวมถึงความฉลาดและพรสวรรค์ ที่เหลือก็เกี่ยวกับการพัฒนาพวกเขา ส่วนตัวผมชอบพัฒนาผู้เล่นที่มีสวรรค์เหล่านั้นและสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขา ผ่านมาถึงตรงนี้ก็เป็นการทำงานที่ค่อนข้างดีทีเดียว”  

∎ การพลาดท็อปโฟร์ในฤดูกาลที่แล้ว

“เราพลาดไปนิดเดียว แต่เราก็ไม่สมควรได้อะไรจากเกมนั้น (แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2 ในนัดรองสุดท้ายจนเสียตำแหน่งท็อปโฟร์ให้ สเปอร์ส) เราพลาดโอกาสครั้งใหญ่ไป”

“หลังจากนั้นผมคิดว่าเมื่อผมมองกลับไปในฤดูกาลที่ผ่านมา จุดที่เราอยู่ เปรียบเทียบตัวเราเองกับทีมอื่นๆ สิ่งที่พวกเขามีและสิ่งที่พวกเราทำ มันทำให้ผมมีแรงกระตุ้นอย่างมากในการเชื่อว่าหากเราเสริมทัพได้ดีในตลาดนักเตะ ฤดูกาลต่อมาจะต้องดีขึ้นแน่นอน” 

∎ การเริ่มต้นในฤดูกาลนี้ 

“ตื่นเต้นมากๆ เห็นได้ชัดว่าเรามีปรีซีซั่นที่ดีมากๆ และคุณสัมผัสได้ว่าทีมมีความลงตัว มีพลังงานที่เหมาะสม มีความเข้าใจและมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง แต่ก็เห็นได้ชัดอีกเช่นกันว่าพรีเมียร์ลีกนั้นต่างออกไป การไปเยือนพาเลซ ในนัดแรกเป็นความท้าทาย แต่ผมก็คาดหวังเอาไว้ว่าทีมจะพร้อมสำหรับการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม” 

 (รอติดตามต่อในตอนที่ 2)

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.