Football Sponsored

คอลัมน์การเมือง – ยุคนี้ อย่าอาย-โกงลอกข้อสอบ แล้วได้ดี(1)

Football Sponsored
Football Sponsored

และแล้วเวลาแห่งความสุขก็ใกล้ถึงบทอวสานโดยสมบูรณ์เข้ามาทุกที อีกราวสองสัปดาห์มหกรรมกีฬาที่ทั่วโลกเฝ้ารอมาตลอดทุกๆ 4 ปีก็จะได้ประเทศที่มีตำแหน่งต่อท้ายอย่างภาคภูมิว่า “แชมป์โลก” ฉบับทะเลทรายแล้ว หลังจากที่ 32 ชาติห้ำหั่นกัน 54 นัด

แต่ตลอดทัวร์นาเมนท์นี้เราเชื่อว่า สังคมไทยเกิดคำถามในใจอย่างมากมาย ตั้งแต่ความเป็นธรรมในการจัดสรรองค์กรเผยแพร่ภาพการถ่ายทอดสดให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศได้รับชมได้เพลิดเพลินความสุขอย่างเต็มอิ่ม

และคำถามสำคัญที่ค้างคาใจสังคมไทยมานานเท่านานคือ “เมื่อไหร่บอลไทยจะไปบอลโลก??”

ต้องยอมรับว่า “ฟุตบอลไทย” ถึงแม้จะไม่ใช่กีฬาประจำชาติอย่าง “เซปักตะกร้อ, มวยไทย” แต่เป็นกีฬาที่ฝังรากอยู่ในสายเลือดสังคมไทยและคนไทยกว่าครึ่งค่อนประเทศ ที่ผ่านมาฟุตบอลทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นทีมบอลชาย – ทีมบอลหญิง ได้รับการตอบรับและสนับสนุนจากคนไทยอย่างมากมาย

ทว่ายิ่งแข่งขันทีมฟุตบอลไทยก็สร้างความผิดหวังให้แก่สังคมไทยมากขึ้น ไม่ใช่เพราะนักฟุตบอลไทยไม่มีพัฒนาการไม่มีความสามารถ ชื่อของ “ผู้การตุ๊ก – นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” แทบไม่มีแฟนบอลไทยไม่รู้จักความเก่งกาจความสามารถทั้งการครองบอลการยิงประตูเป็นที่ประจักษ์แก่วงการฟุตบอลเอเชียจนได้รับตำแหน่ง “ดาราเอเชีย” มาแล้ว หรืออย่าง “เมสซี่เจ – ชนาธิปสรงกระสินธ์” ที่สร้างคุณค่าเปิดตลาดนักฟุตบอลไทยในลีกญี่ปุ่น ฯลฯ ทว่าเป็นผลมาจากการบริหารจัดการของ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์” ที่ผิดพลาด

หากผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้อง มีความตั้งใจในการพัฒนาวงการกีฬาฟุตบอลให้เป็นแหล่งตักตวงความสุขของสังคมไทย เหมือนอย่างความกระตือรือร้นที่จัดหา “ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ฉบับทะเลทราย” อย่างที่กระทำกันสมควรยิ่งที่จะต้องศึกษาการสนับสนุนและการพัฒนาวงการฟุตบอลชาติเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี ที่อดีตเคยเป็นคู่รักคู่แค้นบดบี้แย่งความสำเร็จกันมาว่า ดำเนินการอย่างไรถึงประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง การเอาชนะทีมเยอรมนี อดีตแชมป์โลก 4 สมัย และการเอาชนะทีมชาติสเปน แชมป์โลกปี 2010 ด้วยผลการแข่งขัน 2-1 ทั้งสองแมทช์ ไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นการบริหารจัดการทีมมาตั้งแต่ต้นจนแกร่งทั่วทุกแผง

เราเชื่อและเห็นอย่างที่ “เนวิน ชิดชอบ” นักการเมืองชื่อดังและประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมเต้ยระดับสโมสรในวงการฟุตบอลไทยที่มองว่า เงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลกฉบับทะเลทราย จำนวน 1,600 ล้านบาท หากนำมาเฉลี่ยใช้ในการบริหารจัดการฟุตบอลภายในประเทศและฟุตบอลทีมชาติไทย เพื่อการลงเล่นในรายการฟุตบอลโลก ปี 2026 หรืออีก 4 ปีข้างหน้าเงิน 400 ล้านบาทต่อปี น่าจะทำให้สังคมไทยมีความสุขมากขึ้น และคำถาม “เมื่อไหร่ฟุตบอลไทยจะไปฟุตบอลโลก” ก็น่าจะจางหายไป หากผู้มีอำนาจและผู้เกี่ยวข้องในวงการมีความตั้งใจที่จะให้เกิดผลสัมฤทธิ์นี้ ความจริงความสำเร็จไม่ไกลเกินหากตั้งใจกระทำอย่างจริงจังใช่ตอแหลสร้างภาพ

อย่าอาย ถ้าจะลอกจะโกงการสอบแล้วได้ดี เหมือนแวดวงการเมืองไทย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.