ส.บอลเตรียมตั้ง ชนน์ชนก ชิดชอบ นั่งผจก.ทีมชาติไทยยู-17
ส.บอลไทย เตรียมตั้ง “หนุน” ชนน์ชนก ชิดชอบ ผอ.พัฒนาอคาเดมี่ปราสาทสายฟ้า เข้ารับหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติไทย ยู-17 ปีจากความร่วมมือของบุรีรัมย์ฯกับสมาคมฯ หวังทีมชาติไทยยุคใหม่เก็บตัวยาว 3 ปี เพื่อเป้าหมายสู้ได้ทุกชาติในเอเชีย
หลังจากที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สโมสรจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับความร่วมมือของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อพัฒนาทีมชาติไทย อย่างเป็นระบบ โดยใช้ทุกสรรพกำลัง และร่วมกันสร้างทีมชาติไทยยุคใหม่ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ทีมชาติไทยสู้ได้ทุกชาติในเอเชีย รวมทั้งสร้างความสุขให้แก่แฟนฟุตบอลชาวไทยทุกคนนั้น
ล่าสุด ส.บอลไทย เตรียมที่จะทำการประกาศแต่งตั้ง “หนุน” ชนน์ชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเยาวชนของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุด ยู-17 ปี อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้เตรียมเฟ้นหานักเตะเยาวชนที่เกิดในช่วง พ.ศ.2548-2549 เข้ามาสร้างทีม และจะมีการเก็บตัวที่แคมป์บุรีรัมย์ฯ ตลอด 2-3 ปีต่อจากนี้ โดยที่พวกเขารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
ทั้งนี้ การประกาศแต่งตั้งผู้จัดการทีมชาติไทย ชุด ยู-17 ปี นั้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะมีการประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็วๆนี้ โดย ชนน์ชนก ชิดชอบ ผ่านการอบรมโค้ชเบื้องต้นในหลักสูตร FA Thailand Introductory Course ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาแล้วเมื่อปี 2021
ที่มาของภาพ : –
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.