Football Sponsored

“สเปอร์ส” แพ้ทาง “ลิเวอร์พูล” เปิด 10 สถิติน่าสนใจ ก่อนบู๊พรีเมียร์ลีกคืนนี้

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 บีบีซี สปอร์ต เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจก่อนเกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ ซึ่ง สเปอร์ส อันดับ 3 ที่มี 26 คะแนน จะเปิดบ้านต้อนรับ ลิเวอร์พูล อันดับ 9 ที่มี 16 แต้ม แข่งขันคืนนี้ 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดย “หงส์แดง” มีสถิติโดยรวมที่เหนือกว่า แม้เล่นที่บ้านของ “ไก่เดือยทอง” และผลงานในช่วงหลังจะยังเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ก็ตาม

เฮด-ทู-เฮด

– สเปอร์ส ชนะ ลิเวอร์พูล เพียงหนเดียวจากการพบกัน 21 ครั้งหลังสุดรวมทุกรายการ ซึ่งเป็นเกมที่ เวมบลีย์ รังเหย้าชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ปี 2017 (ชนะ 4-1)

– “หงส์แดง” ชนะ “ไก่เดือยทอง” ในพรีเมียร์ลีก ถึง 5 ครั้งจาก 9 เกมหลังสุดที่ไปเยือน โดยแพ้เพียง 1 นัด

– การพบกันระหว่าง สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก มีการทำเข้าประตูตัวเองรวมกันถึง 10 ครั้ง มากกว่าการพบกันของคู่อื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก

สเปอร์ส

– สเปอร์ส พลิกสถานการณ์จากที่จะแพ้ กลับมาเก็บได้ถึง 10 คะแนนในฤดูกาลนี้ มากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีก นับจนถึงก่อนลงสนามในสัปดาห์นี้

– การพบกันระหว่าง อันโตนิโอ คอนเต และ เยอร์เกน คลอปป์ ในฐานะผู้จัดการทีมทั้งหมด 6 ครั้งในพรีเมียร์ลีก ลงเอยด้วยผลเสมอถึง 4 ครั้ง และผลัดกันชนะคนละ 1 ครั้ง

– แฮร์รี เคน ดาวยิงสเปอร์ส เคยทำประตู ลิเวอร์พูล ในยุค เยอร์เกน คลอปป์ ได้ถึง 6 ลูก มีเพียง เจมี วาร์ดี (เลสเตอร์ ซิตี้) ที่ยิง “หงส์แดง” ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวเยอรมันได้มากกว่า (8 ประตู)

ลิเวอร์พูล

– “หงส์แดง” ทำแต้มหล่นหายถึง 20 คะแนน จาก 12 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ (ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 4) น้อยกว่าทั้งฤดูกาลที่แล้วรวมกันเพียง 2 แต้ม

– ลิเวอร์พูล ชนะใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาลนี้ (5 ครั้ง) มากกว่าในพรีเมียร์ลีก (4 ครั้ง)

– “หงส์แดง” ยังไม่ชนะเกมเยือนในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และมีโอกาสแพ้เกมเยือน 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่แพ้นอกบ้านในลีก 4 เกมรวด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเมษายน ปี 2012

– โรแบร์โต เฟอร์มิโน ยิงได้ถึง 5 ประตู จาก 6 เกมหลังสุดที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีก ที่พบกับ สเปอร์ส

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.