Football Sponsored

“โซลชา” เผยเรื่องกังวลของฮาแลนด์สมัยอยู่โมลด์

Football Sponsored
Football Sponsored

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องที่กังวลในตัวของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ สมัยที่ร่วมงานกันที่สโมสรโมลด์ พร้อมยกย่องนักเตะมีทัศนคติและความมุ่งมั่นที่สุดยอดมากๆ ที่สำคัญเขาเกิดมาเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง

          โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยหนึ่งเรื่องที่กังวลมากๆ เกี่ยวกับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งฟอร์มฮอต สมัยที่ยังค้าแข้งอยู่กับ โมลด์ 

          ฮาแลนด์ กำลังระเบิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรงกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และผลงานของเขาทำให้ได้รับการจับตามองจากบรรดายักษ์ใหญ่ทั่วแคว้นทวีปยุโรปที่พร้อมจะควักกระเป๋าแบบไม่อั้นในการกระชากตัวเขามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

          โดยเฉพาะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวพัวพันกับ ฮาแลนด์ มาตั้งแต่สมัยอยู่ เรดบูลล์ส ซัลซ์บวร์ก ที่สำคัญด้วยการที่นักเตะกับ โซลชา มีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมเพราะเคยมีโอกาสร่วมงานกันที่โมลด์ ทำให้ “ปีศาจแดง” มีภาษีเหนือกว่าทีมอื่นในการดึงนักเตะมาเสริมทัพ

           กุนซือ “เบบี้เฟซ” เปิดใจเกี่ยวกับศักยภาพของ ฮาแลนด์ และปัญหาที่น่าเป็นห่วงของเขาตอนสมัยที่ค้าแข้งกับโมลด์ “เขาอายุ 16 ปี คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรื่องอาการบาดเจ็บ เขามีปัญหาแย่มากๆที่หัวเข่าตอนที่มาร่วมทีม แต่ตอนนั้นผมได้มองเห็นนักเตะคนหนึ่งที่มาพร้อมกับความมุ่งมั่น”

         “ผมยังจำตอนที่จัดการกับเซนเตอร์แบ็กและมิดฟิลด์ตัวกลางซึ่งตัวใหญ่มาก เขาทำให้พวกเขาร่วงลงไปอยู่กับพื้น และบอกให้พวกเขาลุกขึ้น เขาเกิดมาเป็นผู้ชนะ เขามีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมมากๆ เขาพิสูจน์ให้ทุกๆ คนได้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักเตะที่เก่งมากขนาดไหน”

         “เราเคยเล่นกับ เซนิต ในเกมยูโรปา ลีก รอบเพลย์ออฟ และกรรมการเดินเข้ามาหาผมหลังจบเกมแล้วก็พูดว่า -เขาจะได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ในเร็วๆ นี้- ซึ่งเรารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เขาเป็นคนที่มีทัศนคติที่สุดยอดจริงๆ” นายใหญ่ “เร้ด เดวิลส์” ระบุ

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.