กูรูถึงกับส่ายหัว จวก “นูนเญซ” ดาวยิงลิเวอร์พูล จับบอลแรกห่วยเหมือน อดีตแข้งแมนยูฯ
วันที่ 1 ต.ค. 65 กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ อดีตแนวรุกของ “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลลา สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นกูรูลูกหนัง ออกมาวิจารณ์ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ว่าจับบอลแรกสุดห่วยเหมือน โรเมลู ลูกากู อดีตกองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไยเต็ด ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน
สำหรับ นูนเญซ วัย 23 ปี เพิ่งย้ายจาก เบนฟิกา มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 85 ล้านปอนด์ แต่ยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยน่าประทับใจมากนัก ซึ่งล่าสุด อักบอนลาฮอร์ ได้ออกมาจวกคุณภาพฝีเท้าของ นูนเญซ
“เมื่อผมมองไปที่ นูนเญซ ผมรู้สึกว่าแค่การจับบอลแรกของเขาก็ยังดูไม่ดีเลย เราเคยเรียก โรเมลู ลูกากู ว่ารองเท้าทิมเบอร์แลนด์ ตอนที่เขาเจอปัญหาเรื่องการจับบอลแรกในเกมต่างๆ จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่า นูนเญซ จะใส่รองเท้าทิมเบอร์แลนด์ไว้ทั้งสองเท้าเลยนะ” อักบอนลาฮอร์ กล่าว
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.