ส่องรายชื่อนักเตะซูเปอร์สตาร์ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของทั้ง 20 สโมสรแห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แม้ตลาดซื้อขายนักเตะศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 จะผ่านพ้นไปได้สักระยะแล้ว แต่ก็ยังมีการพูดถึงดีลต่างๆ กันอยู่บ้าง เพราะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สโมสรพรีเมียร์ลีกมีการเสริมทัพแข้งใหม่กันแบบฝุ่นตลบ และในขณะเดียวกัน หลายทีมทุ่มเงินคว้านักเตะด้วยค่าตัวเป็นสถิติใหม่ของสโมสรกันเลยทีเดียว
ฉะนั้น เรามาอัปเดทกันหน่อยว่า นักเตะค่าตัวแพงที่สุดเป็นสถิติของแต่ละทีมในพรีเมียร์ลีกนั้นเป็นใครกันบ้าง และเป็นตัวเลขค่าตัวสูงมากน้อยแค่ไหน
หลังจากระเบิดฟอร์มให้ ลีลล์ ด้วยผลงานซัดไป 22 ประตูในศึกฟุตบอลลีกเอิง 2018/19 ทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จึงทุ่มเงิน 72 ล้านปอนด์ กระชากตัว นิโกลาส์ เปเป้ มาร่วมทีม เมื่อเดือนสิงหาคม 2019
อย่างไรก็ดี เมื่อก้าวลงสู่สมรภูมิพรีเมียร์ลีก ปีกทีมชาติไอวอรี่โคสต์รายนี้ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เหมือนสมัยเล่นอยู่ที่ลีกเอิง โดยเฉพาะศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา เปเป้ ยิงได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น ทำให้ซีซั่นนี้ถูกปล่อยให้ นีซ ยืมตัวกลับไปลุยลีกแดนน้ำหอมเหมือนเดิม
เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง ช่วยให้ นอริช ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพ 2020/21 พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของลีกแชมเปี้ยนชิพ ทำให้ แอสตัน วิลล่า ทุ่มเงิน 35 ล้านปอนด์ดึงตัว บูเอนเดีย ไปร่วมทีมเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 เพื่อมาทดแทน แจ็ค กรีลิช ซึ่งย้ายไปแมนซิตี้
เดือนสิงหาคม 2018 บอร์นมัธ ควักกระเป๋า 25 ล้านปอนด์ ดึงตัว เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา กองกลางทีมชาติโคลอมเบีย มาจากสโมสรเลบันเต้ ซึ่งนับตั้งแต่นั้น เลอร์มา กลายเป็นผู้เล่นกำลังสำคัญของทีมมาตลอดจนถึงปัจจุบัน เรียกว่าเป็นดีลที่คุ้มค่าเงินอย่างแท้จริง
“ผึ้งพิฆาต” เบรนท์ฟอร์ด คว้านักเตะเป็นสถิติสโมสรในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากได้ คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 มาจากฮัลล์ ซิตี้ สนนราคาค่าตัวที่ 17 ล้านปอนด์ ซึ่งอาจเป็นตัวเลขที่ไม่ได้สูงนักเมื่อเทียบกับดีลอื่นๆ แต่สำหรับ เบรนท์ฟอร์ด นี่คือผู้เล่นที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร 132 ปีของพวกเขาแล้ว
อีน็อค เอ็มเวปู กองกลางทีมชาติแซมเบีย ย้ายจาก เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มาเป็นสมาชิกใหม่ของ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 20 ล้านปอนด์ และไม่แน่ว่าทีม “นกนางนวล” อาจจะปั้น เอ็มเวปู จนปล่อยออกไปพร้อมกำไรบานเบอะ เหมือนกับที่พวกเขาเคยปั้นผู้เล่นอย่าง เบน ไวท์, อีฟส์ บิสซูม่า หรือ มาร์ค กูกูเรย่า จนได้เงินมหาศาลเข้าสู่สโมสรมาแล้ว
จากผลงานระเบิดฟอร์มสุดโหดยิง 64 ประตูจาก 95 นัดให้กับ อินเตอร์ มิลาน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จึงตัดสินใจทุบสถิติสโมสร จ่าย 97 ล้านปอนด์แลกกับลายเซ็นของ โรเมลู ลูกากู ให้กับมาค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นคำรบสอง เมื่อเดือนสิงหาคม 2021
แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นอีกครั้งที่ ลูกากู ไม่สามารถฉายแสงภายใต้ยูนิฟอร์มสิงห์บลูส์ โดยเขายิงได้เพียง 8 ประตูในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งถือว่า “ล้มเหลว” เมื่อเทียบกับค่าตัวมหาศาลที่เชลซีจ่ายไป และฤดูกาลนี้ หัวหอกทีมชาติเบลเยียมก็ถูกปล่อยกลับไปยัง อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล
เดือนสิงหาคม 2016 คริสตัล พาเลซ ได้ คริสติยอง เบนเตเก้ จากลิเวอร์พูล มาเสริมทัพด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ซึ่ง เบนเตเก้ อยู่ค้าแข้งกับทีมปราสาทเรือนแก้ว 6 ฤดูกาล มีสถิติซัดไป 37 ประตูจาก 177 นัดในทุกรายการ ก่อนที่ล่าสุดจะย้ายไปโกยเงินดอลลาร์กับ ดีซี ยูไนเต็ด ของกุนซือเวย์น รูนี่ย์ ในศึกเมเจอร์ลีก สหรัฐ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
เอฟเวอร์ตัน เซ็นเช็ค 45 ล้านปอนด์ให้กับ สวอนซี คว้าตัว กิลฟี่ ซิเกิร์ดสสัน มาร่วมทีมเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 ซึ่งมิดฟิลด์ชาวไอซ์แลนด์รายนี้เป็นผู้เล่นสำคัญของทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งฤดูกาล 2021/22 มีข่าวว่าเจ้าตัวตกเป็นผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน แต่ไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าใช่ตัวเขาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในซีซั่นดังกล่าว ซิเกิร์ดสสัน ไม่ได้ลงสนามให้กับ เอฟเวอร์ตัน เลยแม้แต่นัดเดียว จนล่าสุดเจ้าตัวหมดสัญญากับทีม และถูกปล่อยตัวออกจากสโมสรไปแล้ว
ฟูแล่มได้ อองกีสซ่า มาจากโอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2018 แต่เจ้าตัวไม่สามารถแจ้งเกิดได้ในศึกพรีเมียร์ลีก ก่อนจะถูกปล่อยยืมให้กับ บียาร์เรอัล และ นาโปลี ซึ่งกองกลางทีมชาติแคเมอรูนรายนี้โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในศึกเซเรียอา อิตาลี จึงถูก นาโปลี ดึงตัวไปร่วมทีมแบบถาวร เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งเมื่อฤดูกาล 2020/21 ทำให้ทัพ “ยูงทอง” ทุ่มเงินเป็นสถิติ 27 ล้านปอนด์ คว้าตัว โรดริโก้ กองหน้าทีมชาติสเปน มาจากบาเลนเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ซึ่ง โรดริโก้ ก้าวเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของทีม โดยเฉพาะซีซั่นนี้ ซึ่งดาวยิงเลือดกระทิงโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ซัดไป 4 ประตูจากการลงสนาม 5 นัด
เลสเตอร์ ยืมตัว ยูริ ตีเลอมันส์ มาจากโมนาโก เมื่อเดือนมกราคม 2019 และทำผลงานได้เข้าตาสตาฟฟ์โค้ช ทีม “จิ้งจอกสยาม” จึงเซ็นสัญญาถาวรในเดือนกรกฎาคม 2019 ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ ซึ่งในเวลานั้นอาจจะดูเหมือนเป็นค่าตัวที่สูงไม่น้อย แต่ ณ ปัจจุบัน มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมรายนี้กลายเป็นคีย์แมนสำคัญของทีม เรียกได้ว่าโชว์ฟอร์มคุ้มค่าตัวสุดๆ จนหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ตามจีบ และถ้ามีการย้ายทีมเกิดขึ้นจริง รับรองว่า เลสเตอร์ ได้กำไรจากดีลนี้แน่นอน
ลิเวอร์พูล ถูกวิจารณ์หนักเมื่อตอนคว้า เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค มาจากเซาแธมป์ตัน เมื่อเดือนมกราคม 2018 ด้วยค่าตัวสูงถึง 75 ล้านปอนด์ เพราะตอนนั้น ฟาน ไดจ์ค ไม่ใช่กองหลังระดับตัวท็อป และยังไม่เคยคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ใดๆ เลย
แต่เมื่อย้ายมาสวมยูนิฟอร์มหงส์แดง ฟาน ไดจ์คสามารถยกระดับฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล กวาดสารพัดแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ในขณะที่ตัวเขาเองก็ก้าวขึ้นมาเป็นเซนเตอร์แบ็กเบอร์ต้นๆ ของโลก พร้อมกับคว้าเกียรติยศส่วนตัวมาครองได้ชนิดนับไม่ถ้วน
ไม่เพียงแต่จะเป็นสถิติสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้เท่านั้น แต่ แจ็ค กรีลิช ยังทำสถิตินักเตะอังกฤษค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังย้ายจาก แอสตัน วิลล่า มายังทีมเรือใบสีฟ้าด้วยค่าตัวมหาศาล 100 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 แต่ทว่า กรีลิช ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่คุ้มค่าตัวสักเท่าไร หลังจากยิงได้เพียง 3 ลูกจากการลงสนาม 26 นัดในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา
จากเด็กปั้นของทีมปีศาจแดง ย้ายฟรีไปสร้างชื่อกระหึ่มกับยูเวนตุส ก่อนที่ แมนยู จะยอมทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร 89 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัว ป็อกบา กลับมาร่วมทีมเมื่อเดือนสิงหาคม 2016
จากนั้น ป็อกบา ลงสนามให้ทีมผีแดง 6 ฤดูกาล พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ก็ยังมีโทรฟี่กับแมนยู 2 รายการคือ ยูโรป้า ลีก กับ คาราบาว คัพ ในฤดูกาล 2016/17 ก่อนที่มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้จะหมดสัญญาและย้ายฟรีกลับไปร่วมทัพ ยูเวนตุส อีกครั้งเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมกับเสียงด่าตามหลังของสาวกเร้ดอาร์มี่
การได้กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสร ทำให้ นิวคาสเซิ่ล มีงบประมาณเสริมทัพมากมายชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และทีมสาลิกาดงก็จัดการกระชากตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าทีมชาติสวีเดนวัย 22 ปี มาจากเรอัล โซเซียดัด ด้วยค่าตัวเป็นสถิติ 59 ล้านปอนด์ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง
ฤดูกาลนี้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู่สังเวียนพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี ทำให้ทีม “เจ้าป่า” ช็อปปิ้งนักเตะใหม่เข้าเสริมทีมอุตลุดมากกว่า 20 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ กองกลางดาวรุ่งจากวูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งย้ายมาด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสร 25 ล้านปอนด์
หลังจากไม่ประสบความสำเร็จกับลิเวอร์พูล แดนนี่ อิงส์ จึงเก็บกระเป๋าย้ายไปล่าตาข่ายให้กับ เซาแธมป์ตัน ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาล 2018/19 ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีม “นักบุญ” แบบถาวรด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ซึ่ง อิงส์ ทำผลงานให้กับ เซาแธมป์ตัน ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้หลังจากนั้น แอสตัน วิลล่า ควักกระเป๋า 25 ล้านปอนด์ ดึงตัว อิงส์ ไปร่วมทีมสิงห์ผยองเมื่อเดือนสิงหาคม 2021
ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ทำผลงานสุดโดดเด่นให้กับ โอลิมปิก ลียง จนมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส 2018/19 ทำให้ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ กุนซือสเปอร์สในขณะนั้น เบิกงบสโมสร 59 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว เอ็นดอมเบเล่ มาเสริมแดนกลางให้กับทีมไก่เดือยทอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2019
อย่างไรก็ตาม เอ็มดอมเบเล่ ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาเหมือนตอนเล่นอยู่ในลีกเอิงได้เลย ทำให้เขาถูกปล่อยยืมไปให้กับ ลียง เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และซีซั่นนี้ก็ปล่อยให้ นาโปลี ยีมตัวไปใช้งานอีก 1 ฤดูกาล
ตลาดนักเตะพรีเมียร์ลีกช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เวสต์แฮมเป็นทีมที่ใช้เงินมากที่สุดเป็นอันดับ 3 เป็นรองเพียง เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ดเท่านั้น โดยทีมขุนค้อนใช้เงินเสริมทัพไปมากกว่า 180 ล้านปอนด์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือดีลของ ลูคัส ปาเกต้า มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติบราซิล ที่ย้ายมาจากโอลิมปิก ลียง ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสร 51 ล้านปอนด์
วูล์ฟแฮมป์ตัน เป็นอีกหนึ่งทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาที่ทุบสถิตินักเตะค่าตัวแพงสุดของสโมสร หลังจากควักกระเป๋า 38 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของ มาเธอุส นูเนส มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติโปรตุเกสวัย 24 ปี จากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งมีดีกรีติดโผทีมยอดเยี่ยมของลีกลูกหนังโปรตุเกส เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
————————————————-
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ – ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก
This website uses cookies.