22ปีแล้ว!มูรินโญ่ลั่นยังไฟไม่คิดเลิกอาชีพกุนซือในเร็วๆนี้
โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ โรม่า ระบุ ยังไม่มีความคิดที่จะวางมือจากการคุมทีมในอนาคตอันใกล้ โดยบอกด้วยว่ายังมีความกระหายชัยชนะอย่างเต็มเปี่ยม
โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ อาแอส โรม่า สโมสรดังของศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เปิดเผยว่าตนยังไม่มีความคิดที่จะเลิกอาชีพการเป็นกุนซือในเร็วๆ นี้แต่อย่างใด
มูรินโญ่ เริ่มเส้นทางการคุมทีมมาตั้งแต่ปี 2000 โดยทีมแรกของเขาคือ เบนฟิก้า และตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนทำให้ได้รับคำชมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มันก็มีคนตั้งคำถามว่าเขาจะยังอยู่ในวงการนี้ไปได้ถึงเมื่อไหร่จากการที่ตอนนี้เขาอายุ 59 ปีแล้ว
กุนซือชาวโปรตุกีสเผยว่า “ช่วงเวลา 22 ปีนี้มันถือว่าผ่านไปรวดเร็วมากๆ แต่ผมอยากทำงานนี้ต่อไป ผมรู้สึกดี, ผมรู้สึกว่าสุขภาพยังแข็งแรง และยังมีแรงกระตุ้นอยู่ ผมชอบการชนะและเกลียดการแพ้ มันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย โอเคล่ะว่าสีผมของผมมันเปลี่ยนไปบ้าง แถมยังมีรอยตีนกาด้วย แต่ผมอยากทำงานนี้ต่อไป แน่นอนว่าผมคงไม่คุมทีมอีก 22 ปีหรอก เพราะมันไม่ได้เหลือเวลามากถึงขนาดนั้น แต่ผมก็อยากจะทำงานนี้ไปอีกหลายปีน่ะนะ”สำคัญ เพราะมันทำให้เราเบาใจกับการที่จะได้เป็นทีมวางเมื่อถึงตอนจับสลากได้, ทำให้เรามีโอกาสเป็นแชมป์กลุ่ม แถมเรายังเอาชนะ อังกฤษ ที่ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของโลกได้ด้วย”
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.