Football Sponsored

โชคดี!ชาร์ลี อดัม อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ประกาศแขวนสตั๊ด

Football Sponsored
Football Sponsored

ชาร์ลี อดัม ประกาศแขวนสตั๊ดแล้ว รับภูมิใจที่เคยเล่นให้สโมสรชั้นยอดอย่าง เรนเจอร์ส และ ลิเวอร์พูล เผยจากนี้ขอมุ่งหน้าสู่เส้นทางโค้ชต่อไป

ชาร์ลี อดัม อดีตกองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ และ ลิเวอร์พูล ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 21 กันยายน ด้วยวัย 36 ปี หลังโลดแล่นอยู่ในวงการลูกหนังมาเกือบ 20 ปี และค้าแข้งกับหลายสโมสร

อดัม เริ่มต้นเส้นทางอาชีพเมื่อปี 2003 กับ เรนเจอร์ส ก่อนที่จะไปโด่งดังกับ แบล็คพูล จน ลิเวอร์พูล ต้องซื้อมาร่วมทีมในปี 2011 แต่ไม่ประสบความสำเร็จในถิ่น แอนฟิลด์ จนปีต่อมาต้องย้ายไปอยู่กับ สโต๊ค ซิตี้ จากนั้นก็ไปเล่นให้ เร้ดดิ้ง และ ดันดี เป็นทีมสุดท้าย 

อดัม ซึ่งติดทีมชาติสกอตแลนด์ 26 นัด ระหว่างปี 2007-2015 โพสต์คลิปอำลาผ่าน อินสตาแกรม พร้อมเขียนข้อความว่า “ตอนนี้ผมรู้สึกว่า มันถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่จะประกาศเรื่องอำลาสนามของผมในฐานะนักเตะ” 

“ผมโชคดีมากพอที่จะได้เล่นให้กับบางสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งค่ำคืนใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เล่นที่ ไอบร็อกซ์ ให้ เรนเจอร์ส พา แบล็คพูล เลื่อนสู่ พรีเมียร์ลีก ในฐานะกัปตันทีม สวมเสื้อที่มีชื่อเสียงของ ลิเวอร์พูล และทำประตูได้ต่อหน้า เดอะ ค็อป” 

“ผมขอขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส, รอสส์ เคาน์ตี้, เซนต์ เมียร์เรน, แบล็คพูล, ลิเวอร์พูล, สโต๊ค ซิตี้, เร้ดดิ้ง และกองเชียร์ของ ดันดี หวังว่าผมจะมอบช่วงเวลาที่น่าจดจำให้กับพวกคุณตลอดการเดินทาง”

“สำหรับตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่ผมจะก้าวสู่การเป็นโค้ช ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกหลงใหลและเพลิดเพลินอย่างเหลือเชื่อในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากนั้น ผมอยากขอบคุณพ่อแม่, ครอบครัว, โซฟี ภรรยาของผม และลูกๆ”

“รวมทั้งเพื่อนๆ ด้วยสำหรับการสนับสนุนตลอดช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ผมคงไม่สามารถทำอะไรได้เลยหากไม่มีพวกคุณ มันเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มอย่างยิ่ง” อดัม ทิ้งท้าย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง