โรนัลโด้ หรือ เมสซี่? เดอ บรอยน์ ตอบชัดอยากเล่นกับใครมากกว่ากัน
เควิน เดอ บรอยน์ ขุนพลทีมชาติ เบลเยี่ยม ของสโมสร แมนฯ ซิตี้ ถูกถามคำถามข้อใหญ่ว่าอยากเล่นฟุตบอลร่วมทีมกับ คริสเตียโน่ หรือว่า ลิโอเนล เมสซี่ มากกว่า แต่เจ้าตัวสามารถตอบคำถามได้อย่างง่ายดายชนิดที่แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด
เดอ บรอยน์ สร้างชื่อเป็นนักเตะชั้นยอดของ พรีเมียร์ลีก ไปแล้วโดยมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์มากมาย ตลอดจนเป็นนักเตะที่มีผลงานแอสซิสต์อย่างน่าทึ่งชนิดหาตัวจับยาก
จากผลงานในสังเวียนแข้งอันเป็นที่ประจักษ์ สตาร์ทีม เรือใบสีฟ้า จึงถูกสอบถามว่าอยากเล่นร่วมทีมกับสตาร์คนไหนมากกว่าระหว่าง เมสซี่ ดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า ของสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงทีมชาติ โปรตุเกส ของสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสองนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค และปรากฏว่าจอมทัพของถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ตอบออกมาอย่างไว
“ผมอยากจะบอกว่าน่าจะเป็น โรนัลโด้ เพราะเขาเป็นกองหน้ามากกว่า ขณะที่ เมสซี่ เป็นเพลย์เมคเกอร์” ดาวดังวัย 31 ปีให้เหตุผล
“ผมเองก็เป็นเพลย์เมคเกอร์ คุณต้องหากองหน้ามาเล่นคู่กับผม”
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.