Football Sponsored

เปิดค่าชดเชย เชลซี จ่ายให้ ทูเคิ่ล-ทะลุ5พันล้านตั้งแต่ยุคเสี่ยหมี

Football Sponsored
Football Sponsored

เปิดตัวเลขเงินชดเชยที่ เชลซี ต้องจ่ายให้ โธมัส ทูเคิ่ล และทีมงาน ส่งผลให้สโมสรต้องเสียไปกับการปลดกุนซือตั้งแต่ยุค “เสี่ยหมี” ทะลุ 5 พันล้านบาทเข้าไปแล้ว

โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมัน จะได้รับเงินชดเชยจาก เชลซี จำนวน 13 ล้านปอนด์ (ประมาณ 559 ล้านบาท) หลังโดน “สิงห์บลูส์” ปลดออกจากตำแหน่ง เมื่อวันพุธที่ 7 กันยายน หลังก่อนหน้านี้ 1 วันพาทีมออกไปแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ 0-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก 

เชลซี ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ ทูเคิ่ล เนื่องจากเจ้าตัวยังเหลือสัญญาทำงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงปี 2024 นอกจากนั้นสโมสรยังต้องจ่ายให้กับทีมงานของกุนซือวัย 49 ปี อีกจำนวน 2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 86 ล้านบาท) ด้วย

ทูเคิ่ล กลายเป็นกุนซือคนแรกของ เชลซี ที่โดนเด้งในยุคของ ท็อดด์ โบห์ลี่ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ซึ่งเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรต่อจาก โรมัน อบราโมวิช ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

สมัยที่ อบราโมวิช เป็นเจ้าของ เชลซี ก็ขึ้นชื่อในเรื่องปลดกุนซือ โดยจ่ายเงินชดเชยไปทั้งหมด 112.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,837.5 ล้านบาท)

จำนวนเงินค่าชดเชยปลดผู้จัดการทีม เชลซี ในยุค โรมัน อบราโมวิช

แฟร้งค์ แลมพาร์ด (มกราคม 2021)  2 ล้านปอนด์ 

อันโตนิโอ คอนเต้ (กรกฏาคม 2018)  26.6 ล้านปอนด์ 

กุส ฮิดดิงค์ (พฤษภาคม 2016)  ไม่มี 

โชเซ่ มูรินโญ่ (ธันวาคม 2015)   8.3 ล้านปอนด์ 

ราฟาเอล เบนิเตซ (พฤษภาคม 2013)  ไม่มี 

โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ (พฤศจิกายน 2012)  10.7 ล้านปอนด์ 

อังเดร วิลลาช-โบอาช (มีนาคม 2012)  12 ล้านปอนด์ 

คาร์โล อันเชล็อตติ (พฤษภาคม 2011)  6 ล้านปอนด์ 

ลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ (กุมภาพันธ์ 2009)  12.6 ล้านปอนด์ 

อัฟราม แกรนท์ (พฤษภาคม 2008)  5.2 ล้านปอนด์ 

โชเซ่ มูรินโญ่ (ธันวาคม 2007)   23.1 ล้านปอนด์

เคลาดิโอ รานิเอรี่ (พฤษภาคม 2004)  6 ล้านปอนด์

รวม – 112.5 ล้านปอนด์

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง