Football Sponsored

เย่ห์กรุ๊ปนำนวัตกรรม “drydye” ปลุกสิ่งทอเติบโตยั่งยืน

Football Sponsored
Football Sponsored

วันพฤหัสบดี ที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2565, 12.20 น.

เย่ห์กรุ๊ปนำนวัตกรรม “drydye” ปลุกสิ่งทอเติบโตยั่งยืน

วันที่ 29 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ ลานกิจกรรม อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)  ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่า กกท. ได้เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวยูนิฟอร์มกีฬา “SAT กับการพัฒนากีฬาไทย ภายใต้นโยบาย BCG” โดยมี นายวุฒิพงศ์ เย่ ประธานกลุ่มธุรกิจเย่ห์กรุ๊ป นายภาวิต วยาจุต ผู้แทนจากสโมสรฟุตบอล ทรูแบงค็อกยูไนเต็ด นายสุเทพ วงค์รื่น ประธานสโมสรเกษตรศาสตร์ เอฟซี Mr.Matias Gaston Conde Mirassoกรรมการบริหารและหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลสยามเอฟซี และคณะผู้บริหาร กกท. ร่วมงาน

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่ายูนิฟอร์มใหม่ของ กกท. เป็นการร่วมมือกับบริษัท เย่ห์กรุ๊ป จำกัด เจ้าของนวัตกรรม “drydye” ที่สามารถย้อมผ้าโดยไม่ใช้น้ำ ถือเป็นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองกับนโยบาย BCG Model ที่ต้องการปลูกจิตสำนึกผู้มีส่วนร่วมทางการกีฬา อาทิ ผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์การกีฬา ผู้จัดการกีฬา และสาธารณชน ให้เกิดพฤติกรรมภายใน ได้แก่ “การมีน้ำใจนักกีฬา เพื่อรักษ์สิ่งแวดล้อม” เห็นความสำคัญและคุณค่าของทรัพยากรที่ใช้ในกิจกรรมกีฬา โดยสามารถนำทรัพยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนด นโยบายโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio – Circular – Green Economy: BCG Model) ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ “การท่องเที่ยวและกีฬาสีขาว” เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นายวุฒิพงศ์ เย่ ประธานกลุ่มธุรกิจเย่ห์กรุ๊ป กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการสนับสนุนกกท. คือแนวคิด BCG ของกกท.ที่ต้องการเป็น Circular และGreen Economy ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของเย่ห์กรุ๊ป และ drydyeซึ่งเป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่สามารถย้อมผ้าโดยไม่ต้องใช้น้ำเลย เป็นการประหยัดค่าพลังงาน ค่าสี ค่าเคมี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่จำเป็นต้องบำบัดน้ำเสีย เพราะนวัตกรรมนี้ใช้คาร์บอนไดออกไซด์( CO2)ในการย้อมผ้าโดยสามารถรีไซเคิล CO2กลับมาใช้อีก  ทั้งหมดนี้คือกระบวนการที่ภาคธุรกิจทำได้ ซึ่งตรงกับแนวนโยบาย SDGs หรือ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ของสหประชาชาติ 17 เป้าหมายซึ่งมีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ 7 ข้อซึ่งเราสามารถทำได้ อาทิ เรื่องน้ำ อากาศเสีย สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2012

ในกิจกรรมกีฬาไทยตอนนี้เย่ห์กรุ๊ปและdrydyeได้เข้าไปมีส่วนร่วมในThai Run ทั้งหลาย เช่น Park Run ของ TTB งาน KU Run ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Chula Run  ของจุฬาฯ หลังจากเติบโตในต่างประเทศโดยเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกและงานวิ่งระดับโลก

ประธานเย่ห์กรุ๊ป กล่าวต่อว่าธุรกิจของเย่ห์กรุ๊ปไม่ได้ทำแค่ชุดกีฬาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด  แต่ยังผลิตชุดชั้นในสุภาพสตรีซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตและไม่เคยหยุดนิ่ง  โดยเฉพาะยุคปัจจุบันสุภาพสตรีจะคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับผิวหนังในจุดซ่อนเร้นที่อาจเป็นอันตรายได้  ปัจจุบันนวัตกรรม drydyeมีความร่วมมือกับแบรนด์ชุดชั้นในไทยเช่น ไทรอัมพ์  วาโก้ ซาบีน่า จินตนา  รวมถึงแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง มาร์คแอนด์สเปนเซอร์และ วิคตอเรียซีเคร็ท ฯลฯ           

นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอถูกมองว่าเป็น Sunset Industry มาโดยตลอด  และยังเป็นที่รังเกียจของสังคมเพราะเดิมทำให้เกิดน้ำเสีย  ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทอต้องย้ายฐานการผลิตออกจากไทย  แต่หากศึกษาให้ละเอียดจะพบว่า  อุตสาหกรรมสิ่งทอมีต้นทุนด้านแรงงานแค่ 15% อีก 85% คือวัตถุดิบ  สีเคมี  ดังนั้นถ้าเราสามารถรีไซเคิลกระบวนการผลิตได้  อุตสาหกรรมสิ่งทอจะไม่ใช่ Sunset จะสามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆในการผลิตสินค้าคุณภาพด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้

“ถ้าเราสู้กับ Sunset Industry ด้วยต้นทุนมีแต่ตาย  แต่ถ้าสู้ด้วยนวัตกรรมเราสามารถจะควบคุมต้นทุนได้  เรามีเป้าหมายว่าจากปี 2025-2040 จะพยายามลดต้นทุนด้วยการลดการใช้น้ำให้เป็นศูนย์ภายในปี 2040” ประธานเย่ห์กรุ๊ปกล่าวในที่สุด

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.