Football Sponsored

“บีจีปทุมยูไนเต็ด” อกหัก “เอซีแอล” ประกาศขอกวาดแชมป์ฟุตบอลไทยชดเชย

Football Sponsored
Football Sponsored

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

“บีจีปทุมยูไนเต็ด” ทำใจรับสภาพไปไม่ถึงรอบ 4 ทีม ฟุตบอล เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก จอดป้ายที่รอบ 8 ทีม “เอซีแอล” เหตุพ่ายให้ “อูราวะเรดไดมอนส์” ประกาศเดินหน้าสู้ต่อ ขอกลับมาทำผลงานแชมป์ฟุตบอลไทย ทั้ง ไทยลีก , ลีกคัพ และ เอฟเอคัพ ตั้งเป้าหวนคืนถ้วยเอเชีย ฤดูกาลถัดไป

มาโกโตะ เทกุระโมริ หัวหน้าผู้ฝึกสอน  สโมสรฟุตบอล “บีจีปทุมยูไนเต็ด”   จากไทยลีก   เปิดเผยว่า  การแพ้ให้กับ อูราวะเรดไดมอนส์  ทีมจาก เจลีก ประเทศญี่ปุ่น  ในฟุตบอล เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก   รอบ 8   ทีม แข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น     โดย “บีจีปทุมยูไนเต็ด”   แพ้ไป 4-0  ถือเป็นความพ่ายแพ้ที่ต้องยอมรับ  แม้ว่าจากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะพาทีมไปให้ถึงรอบ 4  ทีมสุดท้าย   เพื่อเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ไปอีกขั้น ในฐานะสโมสรฟุตบอลจากประเทศไทย  ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย  แต่ทำได้เพียงการมาถึงรอบ 8  ทีม    จากนี้ไปคือ  การกลับสู่ประเทศไทย เพื่อเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอล ทั้งไทยลีก  ,  ลีกคัพ    และเอฟเอคัพ   โดย เป้าหมายของ    ” บีจีปทุมยูไนเต็ด” คือการชนะเลิศทั้ง 3  รายการ 

สารัช อยู่เย็น กองกลางและกัปตันทีม   “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด”    กล่าวว่า  หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก  สิ่งที่  “บีจีปทุมยูไนเต็ด” จะกลับไปให้น้ำหนักก็คือ   มุ่งไปที่การแข่งขันภายในประเทศ   ทั้ง 3  รายการ  คือ  ไทยลีก  ,  ลีกคัพ  และ เอฟเอคัพ  โดยเฉพาะการกลับไปเป็นแชมป์   หลังจากเคยทำได้มาแล้ว  กับตำแหน่ง แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2020

” แน่นอนว่าปีนี้หนักกว่าปีที่ผ่านมา เพราะแต่ละทีมมีการพัฒนาและมีการเสริมทัพที่แข็งแกร่ง   เป็นอีกความท้าทายที่ผมและเพื่อนร่วมทีม จะกลับไปแข่งขัน เป้าหมายของเราในปีนี้ คือต้องการที่จะคว้าแชมป์ภายในประเทศให้ได้ทุกรายการ แม้ว่ามันจะเป็นงานยาก แต่ทุกคนก็มีความมุ่งมั่นและอยากจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จ   และจะกลับมาแข่งขัน เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราต้องทำงานหนักกันต่อไป”

เขา กล่าวว่า   การพบกับ อูราวะเรดไดมอนส์  รอบ 8  ทีม  แข่งขันที่ไซตามะ สเตเดียม    ในเมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น รังเหย้าของอูราวะเรดไดมอนส์ ทุกคนตระหนักดีว่า บีจีปทุมยูไนเต็ด  เป็นรอง ซึ่งตลอดเกมพยายามทำให้ดีที่สุด พยายามเล่นตามแทคติกของโค้ช แต่คู่แข่งทำได้ดีกว่า แม้ว่าจะตกรอบแต่ส่วนตัว   ไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่กลับมองว่าได้ประสบการณ์อันล้ำค่า ที่มาถึงรอบนี้ และจะกลับไปพัฒนาทีมให้ดีกว่าเดิม เพื่อกลับมาแข่งขันรายการนี้อีกครั้ง

“ปี 2021 เราตกรอบ 16 ทีม แต่ปีนี้ (2022) เรามีเป้าหมายที่จะทำให้ดีกว่าเดิมคือพยายามที่จะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมให้ได้เพื่อเกียรติประวัติของเราทุกคน และเราก็ทำได้สำเร็จ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าเราพัฒนาขึ้นและหากมีโอกาสกลับมาแข่งขันรายการนี้อีกครั้งเราจะทำให้ดีกว่าเดิมแน่นอน”  สารัช  กล่าว 

 “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด   จะกลับถึงประเทศไทยในวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม   และมีโปรแกรมลงสนามในการแข่งขัน    รีโว่ ไทยลีก 2022/23 นัดแรก ด้วยการบุกไปเยือน ชลบุรี เอฟซี  วันพุธที่ 31 สิงหาคม เวลา 18.00 น. ที่สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม 

:ขอขอบคุณภาพจาก บีจีปทุมยูไนเต็ด

.

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube Official : https://youtube.com/user/KOMCHADLUEK 
 

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง “คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565” ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   

 (https://awards.komchadluek.net/#)

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง