อนาคตไม่แน่นอน! อาร์เตต้าเปรยทำนองไม่ปิดประตูรับงานคุมเปแอสเช
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ได้แง้มประตูทิ้งไว้ เพื่อโอกาสในการย้ายไปคุมทีม เปแอสเช แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะบอกว่า ยังมีหลายอย่างที่ต้องทำกับ อาร์เซน่อล
มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมชาวสเปน กำลังตกเป็นข่าวลืออาจหลุดออกจากตำแน่ง กุนซือทีม อาร์เซน่อล ในเร็วๆ นี้ หลังจากนำทัพ “ปืนใหญ่” ทำผลงานไม่สม่ำเสมอ โดยปัจจุบันรั้งอันดับ 9 ของตารางพรีเมียร์ลีก เก็บได้ 42 แต้ม จาก 29 นัด จึงทำให้มีข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรอื่นๆ และล่าสุดถูกถามถึงโอกาสในการเข้าไปรับงานที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
“ผมรักปารีส ผมรักเปแอสเชนะ ผมมีความทรงจำที่ดีมากจากที่นั่น มันเป็นสโมสรแรกของผมในฐานะนักฟุตบอลมืออาชีพ และสโมสรก็ยังอยู่ในใจผมเสมอ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ผมมีงานต้องทำมากมายที่ อาร์เซน่อล” อาร์เตต้า กล่าวผ่าน BeIN Sports
สำหรับ อาร์เตต้า เข้ามารับงานในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ต่อจาก อูไน เอเมรี่ โดยนำทัพ “ปืนใหญ่” คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่คุมทีม และพา อาร์เซน่อล จบอันดับ 8 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในซีซั่น 2019-20
โดยฤดูกาลนี้ พวกเขายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ยูโรปา ลีก ซึ่งจะเผชิญหน้ากับ สลาเวีย ปราก สโมสรจาก สาธารณรัฐเช็ก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่จะเตะนัดแรกในวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน และนัดที่สองในวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายนนี้
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.