Football Sponsored

ชอบยุคทูเคิล! จอร์จินโญเล่าประสบการณ์เล่นคู่ โควาซิช, กองเต้

Football Sponsored
Football Sponsored

กองกลางทีมชาติอิตาลียอมรับว่าสไตล์การทำทีมของทูเคิลเหมาะกับจุดเด่นในตัวเขามากกว่า พร้อมเล่าถึงประสบการณ์เล่นคู่กับสองกองกลางที่รูปแบบแตกต่างกัน

จอร์จินโญ กองกลางเชลซี ยอมรับว่าสไตล์การเล่นที่เน้นการต่อบอลสั้นของโธมัส ทูเคิล เหมาะกับตัวเขามากกว่า พร้อมเล่าถึงความแตกต่างระหว่างการเล่นคู่กับมาเตโอ โควาซิช และเอ็นโกโล กองเต้

มิดฟิลด์วัย 29 ปี กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอและน่าประทับใจอีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวเยอรมัน ซึ่งเน้นการครองบอล และต่อบอลสั้นๆ ขึ้นมาจากแดนหลัง ทำให้เขากลายเป็นตัวหลักในแผงกองกลางและต้องสลับกันเล่นร่วมกับโควาซิชและกองเต้อยู่เสมอๆ

“โค้ชอยากให้เราคุมเกม ต่อบอลจากแดนหลัง ถึงแม้ว่าจะโดนกดดัน” จอร์จินโญกล่าวทางเว็บไซต์สโมสร

Editor Picks

  • โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล – ดูบอลสดคืนนี้ (พรีเมียร์ลีก, ไทยลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, ฯลฯ)
  • ร็อบเบน, ฟาน ไดค์, ซัวเรซ : 14 สตาร์ที่เคยอยู่โกรนิงเก้น
  • ดาวซัลโวไทยลีก 2020 : โรลเลอร์นำแข้งไทย, มูริลโลตามทาร์เดลี
  • Thai League Top Assists : สรุปอันดับจอมแอสซิสต์ไทยลีก

“สำหรับผม มันเป็นเรื่องดีที่ได้เล่นฟุตบอลในแบบที่ผมชอบและรู้สึกสนุก ผมคิดว่ามันเหมาะกับตัวผมมากกว่าการเล่นบอลยาวแล้วคอยเก็บบอลแถวสอง

“ตอนที่เล่นคู่กับโควาซิช สไตล์ของเขาคือเล่นบอลสั้น ขยับเข้ามาใกล้ๆ ผมก็เลยรู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะอยากเล่นหนึ่งสอง หรือเมื่อไหร่ที่เขาอยากได้พื้นที่เพื่อจะขยับไปข้างหน้า หรือจะเลี้ยงบอล

“ผมก็พยายามจะช่วยเขา หรือไม่ก็หาพื้นที่ให้เขา หรือเข้ามาช่วยเขา ทำให้เขามีทางเลือกมากขึ้น ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไรเพื่อที่จะหลุดออกมาจากสถานการณ์ที่เขาเจอ

“กับกองเต้ มันก็เหมือนๆ กัน ตอนที่คุณเล่นกับเพื่อนร่วมทีมของคุณ คุณต้องเข้าใจกันและกัน ต้องเข้าใจลักษณะของพวกเขาด้วย อย่างผมก็รู้ว่ากองเต้เป็นคนที่มีพลังมาก ผมก็จะคอยบอกเขาว่าเมื่อไหร่เขาจะพลิกบอลได้

“กับกองเต้ มันเป็นเรื่องของการบอกกันมากกว่า ‘กลับตัวได้’ ‘มีคนเข้ามาประกบ’ เราจะคอยบอกกันเพื่อให้เขารู้ว่าผมอยู่ใกล้ๆ ให้จ่ายบอลสั้นๆ มาได้ ก็คือผมจะพยายามทำให้เขามีทางเลือกที่จะเล่นหนึ่งสองแล้วรอดออกมาได้

“ใช่ ทั้งคู่ฉลาดมาก และพวกเขาก็ขยันวิ่งมากกว่าผมด้วย”

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.