เสือใต้เชือดติเกรส1-0ซิวแชมป์สโมสรโลกสมัย2

ฟุตบอลสโมสรโลก รอบชิงชนะเลิศ 

บาเยิร์น มิวนิค 1 – ติเกรส 0

สนาม : อาเหม็ด บิน อาลี สเตเดี้ยม, กาตาร์

บาเยิร์น มิวนิค ไม่มี เยโรม บัวเต็ง ที่ติดธุระส่วนตัวกับ โธมัส มุลเลอร์ ที่ติดโควิด-19 เพิ่มเติม แนวรุกเลือก ลีรอย ซาเน่, แซร์ช นาบรี้ และ คิงส์เล่ย์ โกมัน และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลงเล่นร่วมกับ ส่วน ติเกรส จากเม็กซิโกวาง อองเดร ปิแอร์ ชีญัก อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเป็นความหวัง

เริ่มเกมมานาทีแรก ติเกรส ทักทายก่อนเลยจากจังหวะเปิดบอลของ หลุยส์ กินโญเนส ที่ไปถึง อองเดร ปิแอร์ ชีญัก  ได้โขก แต่ว่าติดบล็อกออกหลังนิดเดียว

เสือใต้ ตอบโต้คืนในนาทีที่ 5 คิงส์เล่ย์ โกมัน หาจังหวะส่องด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ แต่บอลยังไม่แรงพอที่จะผ่านมือ นาอวล กูซมาน นาทวารติเกรส 

นาทีที่ 18 เสือใต้ ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากจังหวะยิงไกลหน้าเขตโทษสุดสวยของ โยชัว คิมมิช ทว่าผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ล้ำหน้า แม้ไม่โดนบอลจังหวะสุดท้ายแต่มีส่วนรบกวนการป้องกันของผู้รักษาประตู

เสือใต้ลุยหนัก นาทีที่ 25 คิงส์เล่ย์ โกมัน โยกจากขวาเข้าในแล้วยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ นาอวล กูซมาน ต้องออกแรงทุบทิ้งไม่กล้ารับ 

นาที 34 บาเยิร์น เกือบได้สุดๆ จากการเล่นเตะมุมลูกสูตร แซร์ช นาบรี้ จ่ายเร็วเข้าเขตโทษให้ ลีรอย ซาเน่ หวดด้วยซ้ายเน้นๆ ทว่าบอลเช็ดสามเหลี่ยมออกหลังไปน่าเสียดาย จากนั้นจบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0 

ครึ่งหลังนาที 61 บาเยิร์น นำ 1-0 จนได้เมื่อ คิมมิช เปิดบอลให้ เลวานดอฟสกี้ ได้โหม่งติดบล็อกนายทวาร ติเกรส ก่อนเป็น เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เก็บตกวอลเลย์เข้าไป โดยมีการเช็กวีเออาร์ยืนยันว่า เลวานดอฟสกี้ ไม่ได้ล้ำหน้าแต่อย่างใดแม้ตอนแรกจะมีการเป่าล้ำหน้า 

พอได้ประตูนำ เสือใต้ก็พยายามเล่นรัดกุมด้วยการถอดตัวรุกอย่าง นาบรี้ ออกแล้วส่งกลางรับอย่าง โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ลงไปแทนในนาที 65

นาที 82 บาเยิร์น เกือบได้อีกประตูเมื่อ โตลิสโซ่ ได้กดด้วยขวาหน้าเขตโทษ นาอวล กูซมาน ปัดไม่ดีก่อนบอลไปชนเสาอย่างจัง 

ช่วงเวลาที่เหลือ ติเกรส พยายามอย่างหนักเพื่อตีเสมอให้ได้แต่ไม่สำเร็จ จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ชนะไป 1-0 คว้าแชมป์สโมสรโลกสมัยที่ 2 ไปครอง และเป็นสมัยแรกต่อจากปี 2013 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ – เบนฌาแม็ง ปาวาร์, นิคลาส ซือเล่, ลูก้า แอร์กน็องเดซ, อัลฟอนโซ่ เดวิส – โยชัว คิมมิช, ดาวิด อลาบา – ลีรอย ซาเน่, แซร์ช นาบรี้, คิงส์เล่ย์ โกมัน – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 

ติเกรส : นาอวล กูซมาน – หลุยส์ โรดรีเกซ, ดีเอโก้ เรเยส, การ์ลอส ซัลเซโด้, เฮซุส ดวนญาส – ฮาเวียร์ อากีโน่, ราฟาเอล การีโอก้า, กีโด้ ปีซาร์โร่, หลุยส์ กินโญเนส – การ์ลอส กอนซาเลซ เอสปีโนซ่า, อองเดร ปิแอร์ ชีญัก 

ผู้ตัดสิน : เอสเตบัน ออสโตยิช (อุรุกวัย)