Football Sponsored

บิ๊กเปแอสเชปัดข่าว!ทุ่มค่าเหนื่อยปีละ 1850 ล.รั้งเอ็มบัปเป้ – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

เลโอนาร์โด้ ผอ.กีฬา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกโรงปัดข่าวที่สโมสรพยายามรั้งตัว คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ด้วยค่าเหนื่อยก้อนโตสูงถึงปีละ 1,850 ล้านบาท แต่ยืนกราน เปแอสเช จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเก็บสตาร์รายนี้ไว้กับทีม

     เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการกีฬา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอดสโมสรลูกหนังในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องจริงที่สโมสรยินดีจ่ายค่าเหนื่อยสูงถึงปีละ 50 ล้านยูโร (ประมาณ 1,850 ล้านบาท) เพื่อมัดใจให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าคนสำคัญ เซ็นสัญญาฉบับใหม่

     ปัจจุบัน เอ็มบัปเป้ เหลือสัญญาค้าแข้งในถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็ง แค่จบฤดูกาลนี้เท่านั้น และก็เชื่อกันว่า เจ้าตัวมีความตั้งใจที่จะย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ 

     เมื่อเร็วๆ นี้ เลอ ปารีเซียง สื่อชั้นนำฝรั่งเศส รายงานว่า เปแอสเช ต้องการที่จะเก็บ เอ็มบัปเป้ ไว้กับทีมต่อไป โดยได้มีการยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ 2 ปี มูลค่า 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,700 ล้านบาท) ให้ตัวนักเตะพิจารณาเรียบร้อย แถมจะให้เงินกินเปล่าอีกถึง 100 ล้านยูโร หาก ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสวัย 23 ปี ตัดสินใจต่อสัญญากับสโมสรอีกด้วย 

     อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เลโอนาร์โด้ ได้ปฏิเสธกรณีดังกล่าวเรียบร้อย แต่ก็ยืนยันว่า จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรั้ง เอ็มบัปเป้ ไว้กับทีม

     “การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นลงไปในสัญญาของ เอ็มบัปเป้ ถือเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำ แต่เราก็อยากจะให้เงื่อนไขที่ดีที่สุดแก่ คีลิยัน เพื่อให้เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

     “มันมีโอกาสมากแค่ไหนที่ เอ็มบัปเป้ จะต่อสัญญา? ผมตอบเรื่องนี้ไม่ได้หรอก แต่ผมเชื่อว่า เรามีโอกาส ตราบใดที่เขายังไม่เซ็นสัญญากับสโมสรอื่น เราจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อรั้ง คีลิยัน เอ็มบัปเป้” อดีตแข้งดัง เอซี มิลาน และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง วัย 52 ปี กล่าวกับ เลกิ๊ป สื่อดังเมืองน้ำหอม 
 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.