คิดบวกคู่แข่งยิ่งเก่งยิ่งต้องยกระดับ
กลายเป็นผู้รักษาประตูฝีมือดีของวงการฟุตบอลไทยอีกคนสำหรับ โอ-สรานนท์ อนุอินทร์ จอมหนึบแห่ง เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยทักษะการเฝ้าเสาที่ยอดเยี่ยมรวมไปถึงร่างกายที่สูงใหญ่แข็งแกร่งสมบูรณ์ จึงทำให้ผู้รักษาประตูวัย 26 ปี รายนี้ ถูกจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับโอกาสในการก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังของทีมชาติไทยในอนาคต ในช่วงที่โปรแกรมการแข่งขันอัดแน่นทั้งชิงแชมป์อาเซียนและเอเชีย
ในส่วนของ โอ-สรานนท์ อนุอินทร์ เดินหน้าต่อสู่เพื่อเส้นทางฟุตบอลอาชีพที่รักเสมอมามุมมองที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของการแข่งขันในสโมสรรวมไปถึงความฝันที่จะติดทีมชาติแบบจริงจังแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีชื่อเรียกติดมาบ้างแล้วก็ตาม โดยเจ้าตัวเผยว่า การที่มีผู้เล่นที่ดีในทีมมันส่งผลดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับสโมสรหรือทีมชาติ เพราะมันจะทำให้ตัวเราต้องทำงานให้หนักขึ้น มีแรงผลักดันมากขึ้น เต็มที่กับการซ้อม และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เรื่องของโอกาสในทีมชาติไทยผมมองว่าค่อนข้างยากเหมือนกัน เพราะปัจจุบันมีผู้รักษาประตูที่ทำผลงานได้ดีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น พี่บอย -ฉัตรชัย บุตรพรม, พี่แชมป์- ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และอีกหลายๆทีมก็พัฒนาขึ้นมาก ผมเลยมองว่าการติดทีมชาติอีกครั้งก็ค่อนข้างยากพอสมควร แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นได้เราต้องทำผลงานให้ดีกับสโมสรก่อน ถ้ามีโอกาสติดทีมชาติอีกครั้งผมก็จะทำให้เต็มที่ครับ
สำหรับ โอ-สรานนท์ อนุอินทร์ จอมหนึบแห่ง เชียงราย ยูไนเต็ด วัย 26 ปี เป็นชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ฤดูกาลนี้ ลงเฝ้าเสาให้กับทีมในไทยลีก 1 ไปทั้งหมด 17 นัด เก็บคลีนชีตได้ 6 เกม
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.