Football Sponsored

ประเด็นร้อนบอลไทย : ‘บีจี’ น้ำตาเมื่อสองปีที่แล้วสู่รอยยิ้มในวันนี้

Football Sponsored
Football Sponsored

ประเด็นร้อนบอลไทย ฉบับนี้พาไปพูดถึงทัพกระต่ายแก้ว หลังคว้าแชมป์ไทยลีก 2020 อย่างเป็นทางการด้วยความยิ่งใหญ่

ประเด็นร้อนบอลไทย ฉบับที่ 48 คงจะไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่าการคว้าแชมป์ไทยลีก ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หลังจากที่พวกเขาสามารถเถลิงบัลลังก์มาครองได้อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีดของผู้ตัดสินในเกมนัด 24 ที่พวกเขาเปิดสนาม “ลีโอ สเตเดี้ยม” เอาชนะ สุโขทัย เอฟซี 2-0 เมื่อช่วงค่ำ (4 มี.ค. 64) ที่ผ่านมา นับเป็นการครองแชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยลีก ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกถึง 6 นัด ทำลายสถิติของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2011 ลงได้สำเร็จ โดยครานั้น ทัพปราสาทสายฟ้า ได้แชมป์ก่อนที่จะจบฤดูกาล 4 นัด

หากมองไปที่การคว้าแชมป์ในครั้งนี้ของ บีจี นับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดอย่างแท้จริง เนื่องด้วยพวกเขาถือว่าเป็นน้องใหม่ หลังมีอันต้องตกชั้นสู่ไทยลีก 2 เมื่อซีซั่น 2018 ที่ผ่านมา ท่ามกลางน้ำตาที่ไหลรินจากแฟนบอลทั่วสนาม และหน้าจอ เนื่องจากในเวลานั้น พวกเขาต้องการ 1 คะแนน ในเกมสุดท้ายกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี แต่กลับแพ้คาบ้านด้วยสกอร์ 1-2 จนถึงขั้นมีข่าวหนาหูว่าทีมจะเลิกทำหรือไม่ ? เพราะก่อนหน้านั้นไม่นาน ทางบีจี ก็เพิ่งจะยกเลิกการทำสโมสรวอลเลย์บอลอาชีพ ทั้งที่เคยขึ้นไปครองแชมป์ลูกยางไทยแลนด์ลีกมาได้

ตัวผมเองที่กล้าพูดว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้อีกคนนึงของทีม ตามเชียร์ทีมมาตั้งแต่ปี 2012 ตอนนั้นผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 1 ที่ มศว. องครักษ์ ผมตามเชียร์ทีมมาแทบทุกนัดยามที่เล่นในบ้าน หรือนอกบ้านในละแวก กทม. ซึ่งคงต้องบอกว่า ทีมนี้มีสเน่ห์ดึงดูดแฟนบอลให้เขามาตกในภวังค์ได้ไม่ยาก ทั้งสนามที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ใกล้ชิด อบอุ่น ยามฟุตบอลเตะ หรือจะเป็นนักฟุตบอลก็เป็นกันเองสุดๆ ยามจบการแข่งขัน คุณสามารถไปรอถ่ายภาพหรือพูดคุยได้เลย นอกจากนี้ สาวๆแรบบิท เกิร์ล ก็เป็นอีกหนึ่งแรร์ไอเทม ที่ยามแฟนบอลมาสโมสรนี้ ก็ต้องมาชักภาพด้วยเสมอบริเวณหน้าสนาม

ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของ บีจี เคยเกิดขึ้นสมัยที่พวกเขาครองแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2014 หลังเอาชนะ ชลบุรี 1-0 ที่สนามศุภชราศัย จากประตูชัยของ ลาซารัส คาอิมบี้ วันนั้นเป็นวันที่แฟนบีจี มีความสุขมากๆ จากการได้ถ้วยเมเจอร์ใบแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่พวกเขาก็ไม่เคยเข้าใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์ลีกเลยตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา จนกระทั่งทีมต้องมาตกชั้นในปี 2018 อย่างน่าเหลือเชื่อ หรือใครจะมองว่าด้วยอุบัติเหตุฟุตบอลก็ว่ากันไป

แต่การตกชั้นของพวกเขา ก็ไม่ได้ถือว่าเสียหายเท่าไหร่นัก นักเตะหลายคนที่เป็นแกนหลักไม่ทิ้งทีมไปไหน ยังพร้อมสู้กับทีม รวมทั้งแฟนบอล แม้จะบางตาไปบ้างไม่เท่ากับตอนอยู่ลีกสูงสุด แต่ก็ยังมีกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ที่เข้ามาให้กำลังใจทีมอยู่ตลอด พวกเขามีความตั้งใจที่จะต้องเลื่อนชั้นให้ได้ ในฐานะแชมป์ด้วย จึงทำการแต่งตั้ง “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน เข้ามาทำทีม กุนซือรายนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นมือปืนพาทีมขึ้นชั้นอยู่แล้ว เนื่องด้วยในปี 2018 เขาพาทีมโนเนมไร้สตาร์ อย่าง ตราด เอฟซี เลื่อนชั้นขึ้นมาได้อย่างเซอไพรส์

สาเหตุที่ทำให้ โค้ชโอ่ง ตัดสินใจมารับงานที่นี่ ลาออกจากตราด แม้ได้เล่นไทยลีก ก็เป็นเพราะ บ้านของโค้ชรายนี้ก็อยู่ใกล้กับสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม ซึ่งนอกจากจะได้มาอยู่ใกล้กับครอบครัวแล้ว ยังทำให้โค้ชโอ่ง มีโอกาสได้มาทำงานกับทีมที่มีการบริหารจัดการเป็นเลิศ ทีมที่สามารถต่อยอดขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ได้ แม้จะต้องเริ่มจากไทยลีก 2 ก็ตาม ทว่า บีจี ก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง นำโด่งจ่าฝูงลีกรองแบบม้วนเดียวจบ กระทั่งการีนตีเลื่อนชั้นเป็นทีมแรก รวมทั้งคว้าแชมป์ขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย

การต้องมาลงเล่นไทยลีก 1 ในซีซั่นนี้ ไม่มีใครมองเลยว่า บีจี เป็นเต็งแชมป์ แม้กระทั่ง 5 อันดับแรก ก็ยังไม่น่าจะได้ด้วยซ้ำ เนื่องจากทุกอย่างเหมือนเป็นการรีสตาร์ท อย่างที่ ผอ.ง้วน และ โค้ชโอ่ง ให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล ว่า ขอแค่จบเลขตัวเดียว แอบลุ้นแชมป์แบบห่างๆ โฟกัสกับบอลถ้วยเป็นหลัก ก็น่าจะเป็นอะไรที่โอเคแล้ว แต่ด้วยฟอร์มใน 4 นัดแรก ทำได้ดีเก็บ 10 คะแนน ประกอบกับมีการเบรกหนีไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดในรอบแรกยาวนานถึง 6 เดือน ทำให้ทีมมีโอกาสได้ปรับแต่งทีม และขอสถาปนาตัวเองขึ้นมาลุ้นแชมป์เต็มตัว เริ่มด้วยปฏิบัติการกระชาก สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ตัวเทพที่มีปัญหากับ เอสซีจี เมืองทองฯ เข้ามาร่วมทัพ อีกทั้งยังดึง อันเดรส ตูเนซ ที่แยกทางกับ บุรีรัมย์ เข้ามาคุมหลังบ้านกับ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ อิรฟาน ฟานดี้

นั่นทำให้แนวรับของทีมแข็งโป๊ก เจาะยากยิ่งนัก แม้กองหน้าต่างชาติจะไม่มีในช่วงเลกแรก แต่ทีมก็ได้กองหลังและกองกลาง ช่วยกันระดมยิงประตูแบบถล่มทลาย โดยเฉพาะ วิคเตอร์ ที่ซัดไปแล้วถึง 15 ประตู หลังผ่าน 26 นัด ทำให้จุดบอดของบีจี ถูกปิดไปอย่างสิ้นเชิง ทีมมีความอันตรายมากๆ ในการเล่นลูกตั้งเตะ บางคนมองว่า เตะมุม-ฟรีคิก ของบีจี เปรียบกับจุดโทษกลายๆเลยทีเดียว หลังจบ 15 นัดแรก พวกเขามีสถิติ ชนะ 13 เสมอ 2 คว้าแชมป์เลกแรกไปแบบผู้ตามไม่เห็นฝุ่น ตอนนั้น หลายคนก็ฟันธงแล้วนะว่าพวกเขามีลุ้นจะคว้าแชมป์ได้

ยิ่งการเสริมทัพฉบับโหดด้วยการดึง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต , ธีรศิลป์ แดงดา และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ เข้ามาร่วมทัพอีก มันตอกย้ำให้พวกเขาเป็นเต็ง 1 แบบไม่มีใครสู้ได้เลย ผลงานการเก็บชัยชนะได้แบบ Non stops ทั้งทีมใหญ่ทีมเล็ก วันไหนเล่นดีชนะสบาย ส่วนเล่นไม่ดี ก็เอาตัวรอดเก็บ 3 คะแนนแบบหวุดหวิดได้ตลอด จนกระทั่งผ่านไป 24 นัด พวกเขา ชนะ 21 เสมอ 3 มี 66 แต้ม นำหน้าอันดับสองอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 19 คะแนน แต้มขาดไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้พวกเขาได้เถลิงแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรก หลังจากได้แชมป์ไทยลีก 2 เมื่อปีที่แล้ว

หากจะกล่าวชมใครสักคน ก็คงต้องชมเยอะมาก ไล่ตั้งแต่ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี เจ้าของสโมสร ที่เจ็บเท่าไหร่ก็ไม่ยอม สู้จนมีวันนี้ ยอมทุ่มเม็ดเงินคว้าสตาร์เข้าทีม ทำตามสัญญาที่เคยบอกว่าติดหนี้แฟนบอลในปีตกชั้นได้แบบสมบูรณ์แบบ , การทำงานร่วมกันของ ผอ.ง้วน , โค้ชโอ่ง และ โค้ชบอย ที่สามารถสร้างความกระหายให้นักเตะได้ชนิดที่เรียกว่ายอดเยี่ยมมาก ทุกคนมีความต้องการชนะ และความเป็นแชมเปี้ยน รวมทั้งนักเตะทุกคนที่พยายามเล่นกันอย่างสุดความสามารถ ทั้งตัวหลัก และดาวรุ่ง ที่ทำได้ดีทุกครั้งยามได้รับโอกาส ทำให้น้ำตาของแฟนบอลที่เสียไปเมื่อปี 2018 กลายเป็นรอยยิ้มในวันนี้

แน่นอนว่า ฤดูกาลหน้า บีจี จะมีภารกิจลงเล่น ACL ก็คงต้องมาตามดูกันว่าพวกเขาจะรักษาความเสถียร และดีพอจะป้องกันแชมป์ไทยลีกได้หรือไม่ ?

NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.