Football Sponsored

ถึงเวลาทุ่มแล้ว !! ลิเวอร์พูล ตั้งเป้าคว้าสตาร์ ดอร์ทมุนด์ ค่าตัวทุบสถิติสโมสร – kapook.com

Football Sponsored
Football Sponsored

        ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่า พร้อมคว้าตัว จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางคนสำคัญของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยยินดีทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรในการเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์รายนี้

        สำหรับ จู๊ด เบลลิงแฮม ถือว่าเป็นแข้งดาวรุ่งที่สร้างชื่อขึ้นมาอย่างรวดเร็วในวัยเพียง 18 ปี หลังย้ายจาก เบอร์มิงแฮม ไปร่วมทัพ ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ในปี 2020 และได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการลุยโปรแกรมบอลให้กับ เสือเหลือง และทีมชาติอังกฤษ ไปเรียบร้อยแล้ว

        ขณะที่ ลิเวอร์พูล นั้นยังไม่ได้เสริมผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางเข้ามาเพิ่มเติมหลังจากปล่อย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ไปให้กับ เปแอสเช ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยซื้อนักเตะใหม่ไปเพียงแค่รายเดียวคือ อิบราฮิม่า โคนาเต้ ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส

        ล่าสุดมีรายงานว่า เบลลิงแฮม ถือเป็นเป้าหมายอันดับต้น ๆ ในการเสริมทัพตำแหน่งมิดฟิลด์ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในช่วงซัมเมอร์ 2022 และพร้อมที่จะผลักดันให้ ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร 80 ล้านปอนด์ สำหรับสตาร์ ดอร์ทมุนด์ รายนี้

        ซึ่งถ้าหาก ลิเวอร์พูล ปิดดีลดังกล่าวได้สำเร็จ ก็จะทำให้การเซ็นสัญญากับ อดีตแข้งเบอร์มิงแฮม เป็นการทำลายสถิติค่าตัว 75 ล้านปอนด์ของ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ที่ทีม หงส์แดง เคยจ่ายให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในปี 2018

        อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่ใช่งานง่ายของ ลิเวอร์พูล ในการได้ลายเซ็นของ เบลลิงแฮม เนื่องจากมียักษ์ใหญ่ของยุโรปหลายทีมที่ให้ความสนใจ รวมถึงทีมคู่ปรับอย่าง แมนยู ที่เคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับนักเตะรายนี้เช่นกัน

ข้อมูลจาก mirror.co.uk

ภาพจาก AFP

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.