Football Sponsored

“เมืองทองยูไนเต็ด” ประกาศเป้าหมายสู้ศึก รีโว่ไทยลีก ขอนำความสำเร็จคืนถิ่น – คมชัดลึก

Football Sponsored
Football Sponsored

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

กิเลนผยอง ” เมืองทองยูไนเต็ด” เปิดตัวขุมกำลัง และเป้าหมายประจำฤดูกาลใหม่ ของฟุตบอลไทยลีก 1 รีโว่ ไทยลีก ผู้อำนวยการสโมสรย้ำแนวทาง สร้างประวัติศาสตร์ เดินหน้ายอดความสำเร็จ

” เมืองทองยูไนเต็ด”   หรือ  กิเลนผยอง ได้ทำการแถลงข่าวเปิดตัวสโมสร ปรจำฤดูกาลใหม่ ของฟุตบอลอาชีพ  ลีกสูงสุด ไทยลีก 1    : รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021-22  ในรูปแบบช่องทางออนไลน์ทาง Official Fanpage และ Youtube Muangthong United 

สำหรับขุมกำลัง    “เมืองทองยูไนเต็ด”  ที่จะลงแข่งขัน  ประจำฤดูกาลนี้ นำโดย อดิศักดิ์ ไกรษร, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ธีระพล เยาะเย้ย, วิลเลี่ยน พ็อพพ์, ลูคัส โฮช่า, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ, สมพร ยศ, พิชา อุทรา, ศฤงคาร พรมสุภะ, สรวิทย์ พานทอง ฯลฯ ภายใต้การคุมทีมของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวมาซิโดเนีย

 รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร กล่าวว่า  การแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรฯ ครั้งนี้  นับเป็นสัญญาณที่จะบอกว่า ความท้าทายครั้งใหม่จะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง ในการนำพาสโมสรแห่งนี้สร้างประวัติศาสตร์ในฟุตบอลอาชีพ การเดินหน้าต่อ ยอดความสำเร็จในฤดูกาลใหม่   เมืองทองยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้   ด้วยสไตล์การทำทีมของ มาริโอ ยูรอฟสกี้    จะทำให้ทุกคนเห็นถึงการเล่นฟุตบอลที่สวยงามและมีประสิทธิภาพ

“เราได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย  จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอลไทยยุคปัจจุบัน เราประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ทั้งในแง่ของผลงานในสนาม รวมถึงนอกสนาม ทำให้ เมืองทองยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง สำหรับเป้าหมายในฤดูกาลใหม่นี้ ทีมงานสต๊าฟทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง นักเตะทุกคนต่างมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะพาทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ให้กลับมามาสู่สโมสรให้ได้”รณฤทธิ์  กล่าว 
 

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.