Football Sponsored

“โค้ชโย่ง”หวังได้แกนหลักร่วมซ้อมยู-23 ยัน29 แข้งอยู่ในข่ายสโมสรปล่อยตัว – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

“โค้ชโย่ง” ยันชัด 29 แข้งช้างศึก ยู-23 ปีที่ได้เรียกเข้าแคมป์ซ้อม อยู่ในข่ายที่สโมสรปล่อยตัวให้ทีมชาติได้ หวังดูฟอร์มหน้าใหม่ๆใครฝีเท้าจัดจ้านบ้าง ส่วนนักเตะตัวหลักก็อยากได้มาซ้อมกับทีมชาติ แต่รอดูสถานการณ์ไทยลีกจะเป็นยังไงก่อน เผยต้องเห็นใจสโมสรด้วย เล็งประชุมร่วมกับสโมสรจะเรียกมาฝึกซ้อมในรูปแบบไหน และช่วงเวลาใด ในแคมป์เก็บตัวช่วงที่สอง

    ความเคลื่อนไหวของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ปี ภายใต้การกุมบังเหียนของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ และ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ในการเตรียมทีมลุยศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 27-31 ต.ค.64 

    ล่าสุด “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีมได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการเตรียมทีมกับสื่อแล้วว่า “การประกาศรายชื่อนักเตะทั้ง 29 คน เป็นนักเตะที่อยู่ในลิสต์ที่สโมสรสามารถปล่อยตัวมาให้กับทีมชาติได้ ซึ่งจากนี้เราก็ต้องมาคัดเลือกดูว่ามีนักเตะคนไหนที่จะสามารถเล่นได้บ้าง เพราะนักเตะ 29 คน ส่วนใหญ่ไม่ใช่นักเตะตัวหลักทำให้เราต้องมาคัดเลือกดูก่อนในช่วง 12 วันในแคมป์เก็บตัวนี้” 

     “ในส่วนประเด็นการจะเรียกตัวหลักของสโมสรต่างๆ มานั้นคงเป็นเรื่องยาก แต่แน่นอนเราต้องการเรียกมาฝึกซ้อมกับทีมแน่นอน แต่คงต้องรอดดูว่าสถานการณ์ไทยลีกจากนี้เป็นอย่างไร และต้องดูความเหมาะสมว่าจะเรียกมาฝึกซ้อมในรูปแบบไหน และช่วงเวลาใด ซึ่งเราต้องเห็นใจสโมสรด้วย ซึ่งตอนนี้คงบอกไม่ได้ เพราะเราต้องมีการประชุมและคุยกับสโมสรก่อน” เฮดโค้ชวัย 49 ปี กล่าวปิดท้าย

    สำหรับทีมชาติไทย ชุด ยู-23 จะเข้าแคมป์ฝึกซ้อมในช่วงระหว่างวันที่ 30 ส.ค. – 10 ก.ย.64 ที่แคมป์ศูนย์ฝึกยามาโอกะ ฮานาซากะ ฟุตบอล อะคาเดมี่ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าร่วมการแข่งขันรายการดังกล่าว โดยทัพช้างศึก ยู-23 ปี อยู่ในกลุ่มเจ ร่วมกับ มาเลเซีย, สปป.ลาว และมองโกเลีย (เจ้าภาพ) ซึ่งมีโปรแกรมการแข่งขันประกอบด้วย วันที่ 25 ต.ค.64 พบ มองโกเลีย, วันที่ 28 ต.ค.64 พบ สปป.ลาว และวันที่ 31 ต.ค.64 พบ มาเลเซีย

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.