Football Sponsored

ถ้า โรนัลโด้ ซบ แมนฯ ซิตี้ จะโดนแบบไหน ? ย้อนดูตัวอย่างความเดือดแฟนบอลหลังแข้งขวัญใจซบคู่อริ – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

กระแสความเป็นไปได้ในการย้ายซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ทำให้เสียงก่นด่าของแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีมากขึ้นไปพร้อมๆ กัน หลังจากที่เดิมที โรนัลโด้ เคยทำผลงานได้สุดยอดกับ “ปีศาจแดง” จนเข้าขั้นเป็นตำนานคนหนึ่งของทีมก็ว่าได้

   แน่นอน การย้ายทีมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาในโลกลูกหนัง แต่การไปซบทีมคู่อริถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักเตะคนนั้นเคยมีสถานะเป็นถึงขวัญใจของแฟนบอลทีมเก่า ซึ่งนั่นก็ทำให้ตอนนี้ “เร้ด อาร์มี่” บางส่วนป่าวประกาศเลยว่าจะเผาเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สกรีนนามสกุลของ โรนัลโด้ ทิ้งแน่นอน ถ้าหากแข้งชาวโปรตุกีสไปซบ แมนฯ ซิตี้ จริงๆ

   อย่างไรก็ตาม การเผาเสื้อถือเป็นวิธีทั่วไปที่แฟนบอลจะทำกันเพื่อเป็นการระบายอารมณ์เวลาเห็นอดีตนักเตะแสนรักไปอยู่กับคู่อริ มันมีอีกหลายกรณีที่แฟนบอลแสดงออกในเชิงที่ดุเดือดกว่าแค่การเผาเสื้อ ซึ่งวันนี้เราจะมายกตัวอย่างในกรณีนั้นกันว่ามีแบบไหนบ้าง

 – ตำนานหัวหมู

  แน่นอนว่าหลายคนน่าจะนึกถึงเหตุการณ์นี้เป็นอันดับต้นๆ เพราะว่าการที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ สามารถเอา หลุยส์ ฟิโก้ มาจาก บาร์เซโลน่า คู่อริตลอดกาลได้นั้นถือเป็นดีลที่น่าฮือฮามากๆ และตอนที่ ฟืโก้ กลับไปเยือน คัมป์ นู ในสภาพที่ใส่เสื้อสีขาวเป็นครั้งที่ 2 เมื่อปี 2002 มันก็ทำให้เขาได้รับการต้อนรับแบบดุเดือดจากแฟนบอลเจ้าถิ่น จนเกิดเป็นตำนานการขว้างหัวหมูลงมาในสนาม

  ที่จริงวันนั้นแฟนบอล บาร์เซโน่า ทำอย่างอื่นเหมือนกัน อย่างเช่นการขว้างขยะลงมาจากอัฒจันทร์ หรือการเผาภาพโปสเตอร์ของ ฟิโก้ ในชุด มาดริด แต่มันก็ไม่โดดเด่นเท่าหัวหมูที่อยู่บนผืนหญ้าแม้แต่นิดเดียว โดยสุดท้ายหัวหมูหัวนั้นก็ได้เป็นตำนานจนถึงขั้นได้ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของ “อาซูลกราน่า” เลย

 – ตราหน้าแบบเด่นๆ


 

  แม้ว่าเมืองเนเปิ้ลส์กับเมืองตูรินจะอยู่ห่างกันราว 888.7 กิโลเมตร แต่ในด้านฟุตบอลแล้วนั้น นาโปลี ทีมดังประจำเมืองเนเปิ้ลส์กับ ยูเวนตุส สโมสรชั้นนำของเมืองตูรินถือว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างมากในเชิงความเป็นคู่อริกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านประวัติศาสตร์ของแคว้น หรือด้านฟุตบอล

  ด้วยเหตุนี้ ตอนที่ กอนซาโล่ อิกวาอิน ย้ายจาก นาโปลี ไปอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2016 แฟนบอล นาโปลี ส่วนใหญ่เลยโมโหมากๆ โดยตอนนั้น อิกวาอิน ก็กำลังฟอร์มฮอตสุดๆ กับ นาโปลี ด้วย ภายหลังทำประตูให้ทีมไปถึง 91 ลูกจากการลงเล่น 146 นัดในทุกรายการ

  ดังนั้นก่อนหน้าที่เจ้าของฉายา “เอล ปิปิต้า” จะกลับมาเยือน ซาน เปาโล ในฐานะคู่แข่งเป็นครั้งแรกนั้น เหล่าแฟนบอล นาโปลี ก็เลยทำป้ายที่มีข้อความว่า “ไอ้ตัวเสแสร้ง ตอนนี้แกเป็นทาสของระบบไปแล้ว ไอ้คนทรยศเน่าเฟะ” ขึ้นมา พร้อมกับเอามันไปผูกตรง ปอนเต้ มาดดาเลน่า เซราซูโอโล่ สะพานอันขึ้นชื่อของเมือง เพื่อทำให้ อิกวาอิน รู้ซึ้งถึงความเดือดดาลของพวกเขา

 – คนหน้าเงิน

  แอลชี่ย์ โคล เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ที่เหล่าแฟนบอล “ไอ้ปืนใหญ่” ภาคภูมืใจอย่างมาก เขาขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้เป็นครั้งแรกในปี 1999 ก่อนจะกลายเป็นแกนหลักให้กับทีมพร้อมกับทำให้ทีมได้แชมป์ลีก 2 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 3 ครั้ง และแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 หน

  ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พอพวกเขารู้ว่า โคล แอบคุยกับ เชลซี อย่างลับๆ เพื่อที่จะทำการย้ายไปซบคู่อริร่วมกรุงลอนดอนนั้น เหล่าแฟนบอล อาร์เซน่อล จะโกรธกันสุดขีด ก่อนที่สุดท้าย โคล จะได้ย้ายไปซบ เชลซี สมใจ ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2006 ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 5 ล้านปอนด์ โดยที่ อาร์เซน่อล ได้ตัว วิลเลี่ยม กัลลาส มาเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอ

  ทั้งนี้ ตอนที่ อาร์เซน่อล กับ เชลซี โคจรมาเจอกันเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2006 เหล่าแฟนบอล อาร์เซน่อล ก็สร้างความแปลกใจให้หลายคนด้วยการโปรยแบงค์กันเต็มไปหมด แต่พอมองดีๆ แล้วทุกคนก็เข้าใจว่ามันเป็นการล้อเลียน โคล ว่าเป็นคนหน้าเงิน เพราะมันเป็นแบงค์ปลอมที่มีรูปของ โคล ประดับอยู่บนนั้นนั่นเอง แถมยังมีหลายอย่างที่สื่อถึง เชลซี ด้วย

   – เด็กเกร็ดบอล –

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.