Football Sponsored

ประวัติ “เตียวหุย เพชรปรัชญา” หนุ่มคมเข้มนักบอลเสียงใส จากเวที เดอะสตาร์ ไอดอล – Sanook

Football Sponsored
Football Sponsored

เป็นหนุ่มหล่อคมเข้มเสียงดี ที่หลายๆ คนต่างเทใจให้เขารัวๆ เลยทีเดียวสำหรับ เตียวหุย เพชรปรัชญา หนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน รายการ เดอะสตาร์ ไอดอล ที่เรียกว่านอกจากจะหน้าหล่อแล้ว เขายังมีเสียงที่เพราะจนทำให้คณะกรรมการถึงกับกล่าวชมเลยทีเดียว

เตียวหุย เพชรปรัชญา

วันนี้ Sanook Campus เราก็จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับ ประวัติ เตียวหุย เพชรปรัชญา หนุ่มนักบอลที่หลงรักเสียงดนตรีจากรั้ว มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คนนี้ให้มากขึ้นกันซักหน่อย

เตียวหุย เพชรปรัชญา

ประวัติ เตียวหุย เพชรปรัชญา

  • เตียวหุย มีชื่อจริงว่า เพชรปรัชญา เหลืองเดชานุรักษ์
  • เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2541
  • ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดเชียงใหม่
  • ส่วนสูง 182 เซนติเมตร
  • จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจาก โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
  • จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสหเวชศาสตร์การจัดการกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • IG : tiewhuii

ที่มาของชื่อเล่น “เตียวหุย” มาจากชื่อตัวละครในสามก๊ก สามพี่น้อง เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ชื่อนี้ของเจ้าตัวมาจากคุณพ่อที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน และเจ้าตัวก็มีลูกพี่ลูกน้องเป็นชื่อตัวละครจีนเหมือนกัน โดยใช้ชื่อว่า “ขงเบ้ง” จึงตั้งชื่อ “เตียวหุย”

เขาเริ่มเป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียลมีเดีย จากการที่มีการแชร์ภาพของเขาในแฟนเพจ TU Sexy Boy ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนทำให้มีแมวมองมาติดต่อและชักชวนเข้าวงการบันเทิง โดยการเข้าประกวดร้องเพลง La Banda Thailand ซีซั่นที่ 2 และได้รับตำแหน่ง 1 ใน 5 ผู้ชนะของรายการ และเขาก็ได้กลับมาแข่งขันตามหาฝันอีกครั้งในเวที เดอะสตาร์ ไอดอล นั่นเอง

ชีวิตส่วนตัวของเขา ชอบกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก โดยเขาเคยเข้าสโมสรฟุตบอล สมัยตอนเรียนมัธยมมาแล้วด้วย และนอกจากนั้นสาเหตุที่เขาเลือกเรียนที่คณะสหเวชศาสตร์การจัดการกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เพราะว่าเขาอยากจะต่อยอดความรู้ตัวเองไปใช้ในเรื่องที่เขาชื่นชอบ

เตียวหุย เพชรปรัชญา
เตียวหุย เพชรปรัชญา
เตียวหุย เพชรปรัชญา

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.