Football Sponsored

แฟนนักบุญเฮ!วอร์ด-พราวส์เซ็นสัญญาฉบับใหม่เซาธ์แฮมป์ตัน – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

สยบข่าวเตรียมย้ายทีม… เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ห้องเครื่องคนสำคัญ เซาธ์แฮมป์ตัน ขยายสัญญากับต้นสังกัดออกไปจนถึงปี 2026 เรียบร้อย พร้อมเปิดใจแฮปปี้สุดๆ ที่ได้ฝากอนาคตกับสโมสรแห่งนี้

     เซาธ์แฮมป์ตัน สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า เจมส์ วอร์ด-พราวส์ กองกลางกัปตันทีมคนเก่ง ได้จรดปากกาเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่ 5 ปี กับต้นสังกัดเป็นที่เรียบร้อย 

     ถึงแม้เดิมที วอร์ด-พราวส์ เหลือสัญญากับ “นักบุญ” ถึงปี 2025 แต่เจ้าตัวก็มีข่าวเกี่ยวโยงกับเรื่องย้ายทีม โดยเฉพาะการถูกโยงกับ แอสตัน วิลล่า อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ดาวเตะจอมยิงฟรีคิกวัย 26 ปี ได้ขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปีเรียบร้อย ภายใต้ดีลใหม่ ซึ่งนั่นจะทำให้เจ้าตัวได้อยู่โยงในถิ่น เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม แบบยาวๆ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2026 
 
     ทั้งนี้ วอร์ด-พราวส์ เป็นเด็กปั้นโดยตรงของ เซาธ์แฮมป์ตัน และนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2011 เจ้าตัวลงเล่นให้สโมสรไปแล้วทั้งสิ้น 323 นัด ทำได้ 33 ประตู 

     “ผมดีใจมากๆ ผมคิดว่า ตอนนี้ผมน่าจะเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยด้วยซ้ำ สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากๆ สำหรับผม การได้ฝากอนาคตไว้กับสโมสรแห่งนี้อีกครั้ง ถือเป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจมากๆ” 

     “มันน่าจะเป็นครั้งแรกในอาชีพการเล่นฟุตบอลของผม ที่ผมมีข่าวเกี่ยวโยงกับเรื่องย้ายทีม แต่ผมคิดว่า ผมอยากจะนั่งพูดคุยกับทางสโมสร และสุดท้ายมันก็เวิร์คสำหรับทั้งสองฝ่าย พวกเขาได้บอกถึงความชื่นชอบในตัวผม และก็บอกว่า พวกเขาอยากให้ผมนำทีมชุดนี้”

     “สโมสรแห่งนี้ได้ให้อะไรผมมากมาย ถ้าให้พูด ผมคงพูดไม่หมดหรอก สำหรับโอกาสต่างๆ ที่พวกเขามอบให้กับผม ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจมากๆ ที่สโมสรทำแบบนี้กับผม”

     “ภารกิจของผมกับที่นี่ยังไม่จบ ผมยังมีอะไรอีกมากมายที่จะมอบให้กับสโมสร ผมอยากจะนำทีมชุดนี้ และอยากทำให้มั่นใจว่า ผมสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของสโมสร ที่มอบให้กับผมมาตลอดตั้งแต่ตอนผมอายุได้แปดขวบ” วอร์ด-พราวส์ เปิดใจ 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.